กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--ปตท
สะท้อนตามต้นทุนตลาดโลกที่อ่อนตัวลง มีผลพรุ่งนี้ (6 ต.ค. 49) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป พร้อมขอความร่วมมือผู้บริโภคเลือกใช้พลังงานทดแทน ซึ่ง ปตท.ให้บริการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ครบทุกแห่งทั่วประเทศแล้ว เป็นรายแรก
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันมีความผันผวนสูงมาก ล่าสุดได้อ่อนตัวลงมาบ้าง โดยในวันนี้ (5 ต.ค. 49) ราคาน้ำมันดิบดูไบอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 55.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูป เบนซินสิงคโปร์ 95 อยู่ที่ระดับ 60.37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 69.28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้
ปตท.สามารถพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดทั้งกลุ่มเบนซินและกลุ่มน้ำมันดีเซล ลดลงให้ผู้บริโภคได้อีกครั้งลิตรละ 40 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 ต.ค. 49) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม. และปริมณฑล เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 25.59
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 24.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 24.79
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 24.14
น้ำมันพีทีทีไบโอดีเซล/น้ำมันดีเซล-ปาล์มบริสุทธิ์ 23.64
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ปตท. กล่าวต่อไปว่า ผลจากการที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง เนื่องจากรายงานการพยากรณ์ Hurricane ของมหาวิทยาลัย Colorado ของประเทศสหรัฐฯ คาดว่าฤดูมรสุมปีนี้จะมีพายุโซนร้อนอีกเพียง 2 ลูก และจะไม่เกิดพายุ Hurricane ขนาดใหญ่ จนสิ้นสุดฤดูฯ ประกอบกับมีรายงานว่าปริมาณสำรองน้ำมันทั้งน้ำมันดิบและสำเร็จรูปของสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะน้ำมันสำเร็จรูปนั้นนับว่าอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และ Reuter Poll ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ที่จะประกาศสัปดาห์นี้จะปรับเพิ่มขึ้นอีก ตลาดจึงคลายความกังวลเรื่องปริมาณน้ำมันไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้รายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 49 ลดลงกว่าไตรมาสแรก จึงเป็นปัจจัยให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง
การลดราคาน้ำมันครั้งนี้ นับเป็นการลดราคาน้ำมันเบนซินครั้งที่ 11 รวมลดลงไปทั้งสิ้น 4.60 บาท/ลิตร แล้ว ส่วนน้ำมันดีเซลนั้นเป็นการปรับลดราคาครั้งที่ 8 รวมลดลง 3.40 บาท/ลิตร (ในรอบเกือบสองเดือน)
อย่างไรก็ดีขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง เลือกใช้พลังงานทดแทนเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน เช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และก๊าซ NGV โดยสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ทุกแห่ง พร้อมให้บริการน้ำมัน “พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส” ครบทั่วทั้งประเทศแล้วกว่า 1,200 แห่ง มากที่สุดในประเทศ สำหรับก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งขณะนี้มีสถานีบริการฯ 70 แห่ง และภายในต้นปีหน้า( ปี 2550) จะมีครบ 200 แห่ง ในส่วนของการให้บริการน้ำมันไบโอดีเซล ปัจจุบันมีจำนวนสถานีบริการฯ 26 แห่ง และจะขยายให้ครบ 100 แห่ง ในสิ้นปี 2549 นี้ นายชัยวัฒน์ กล่าวตอนท้าย