กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--ปตท.
ดูไบราคาสูงสุด ในขณะที่น้ำมันตลาดโลกพุ่งสูงต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ น้ำมันขายปลีกในประเทศจำเป็นต้องปรับ 40 สตางค์
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากข่าวกรณีที่อิหร่านจะเดินหน้าพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ ทำให้ สหรัฐฯ และยุโรป แสดงความไม่พอใจออกมาคัดค้าน และเร่งให้สหประชาชาติจัดการประชุมในวันที่ 2 ก.พ.ศกนี้ ซึ่งอาจมีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ประกอบกับข่าวความไม่สงบในไนจีเรีย ที่มีการขู่โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันอีกในสัปดาห์หน้า อีกทั้งปริมาณสำรองน้ำมันของประเทศคูเวตที่มีอยู่จริง (ประมาณ 48 พันล้านบาร์เรล) นั้นน้อยกว่าที่รัฐบาลประกาศ 52% ปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาจนถึงล่าสุดในวันนี้ (24 ม.ค.49) น้ำมันดิบดูไบ ได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงสุดคือ 61.05 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (สูงขึ้นถึง 3.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) น้ำมันเบนซินสิงคโปร์ (ULG 95) ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 69.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (สูงขึ้นถึง 1.95 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) น้ำมันดีเซล ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 71.77 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (สูงขึ้น 1.87 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ปตท. จึงมีความจำเป็นต้องปรับราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดเพิ่มขึ้น 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ศกนี้ (เวลา 05.00 น.) เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม. และปริมณฑล เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 27.24
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 25.74
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 26.44
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 24.69
น้ำมันดีเซล-ปาล์ม (บริสุทธิ์) 24.19
สำหรับราคาน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินนั้น นอกจากปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบแล้ว ยังมีผลมาจากความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั้งในตะวันออกกลาง และของ บริษัท Pertamina ประเทศอินโดนีเซีย (ในปริมาณ 200,000 บาร์เรล) ส่วนราคาน้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นนั้น มีปัจจัยมาจากญี่ปุ่นมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อทำความอบอุ่นและใช้ในอุตสหกรรมการบินด้วย
นายชัยวัฒน์ กล่าวย้ำว่า ปตท.พร้อมที่จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยจะพยายามชะลอการปรับขึ้นราคาให้ช้าที่สุดเท่าที่ ปตท. จะสามารถรับภาระไว้ได้ (แม้ว่าราคาต้นทุนน้ำมันได้ปรับเพิ่มขึ้นไปแล้วก็ตาม) ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันประหยัดการใช้พลังงานทุกชนิดเท่าที่จำเป็น วางแผนและตรวจสอบสภาพเส้นทาง รวมทั้งตรวจสภาพรถยนต์ฯ อย่างสม่ำเสมอ และเลือกใช้พลังงานทดแทนให้เหมาะสมกับรถยนต์--จบ--