กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ตอบรับกิจการยุคดิจิตอล บริษัท สยามทูยู จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าจดทะเบียน หลังประสบความสำเร็จจากการขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ ประชาชนทั่วไประหว่าง 20 — 22 เม.ย.48 ระดมทุนราว 71 ล้านบาท ไปขยายธุรกิจและฐานลูกค้า ลงทุนวิจัยและพัฒนา รวมถึงพัฒนาองค์กร
นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัท สยามทูยู จำกัด (มหาชน) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และเริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. 48 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “S2Y”
“สยามทูยู มีรายได้หลักมาจากการให้บริการเสริมสำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งปัจจุบันเป็นอุปกรณ์ไร้สายที่หาซื้อได้ง่าย ใช้งานสะดวก มีกลุ่มผู้ใช้บริการจำนวนมาก เชื่อว่าสยามทูยูจะเป็นอีกกิจการหนึ่งที่ น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการเกาะกระแสการบริโภคในยุคดิจิตอล ซึ่งสยามทูยูได้พยายามตอบสนอง ผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทันการณ์ เห็นได้จากการเติบโตของ รายได้ที่มีอยู่ต่อเนื่อง” นายวิเชฐกล่าว
บมจ. สยามทูยู (S2Y) มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วรวม 40.93 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 30.70 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 10.23 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ระหว่างวันที่ 20 —22 เม.ย. ที่ผ่านมา บริษัทได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 9.88 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 7 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) 5.88 เท่า และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานจำนวน 0.35 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 5.25 บาท คิดเป็นเงินระดมทุนราว 71 ล้านบาท โดยจะใช้ไปเพื่อขยายธุรกิจและฐานลูกค้า รวมถึงลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา การพัฒนาระบบสารสนเทศภายในองค์กร และพัฒนาบุคลากรของบริษัท สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ S2Y มีบริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
S2Y ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information & Communications Technology) ในธุรกิจ 3 ประเภทคือ ธุรกิจบริการเสริมสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ (Wireless Value Added Service) ธุรกิจบริการคำปรึกษาและพัฒนาผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตไร้สาย (Interactive Solutions) และธุรกิจบริการสื่อดิจิตอล (Digital Media) โดยมีรายได้ส่วนใหญ่ประมาณ 80 — 90% มาจากธุรกิจประเภทแรก สำหรับการจ่ายเงินปันผล บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองต่างๆ
นอกจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปแล้ว ผู้ถือหุ้นของ S2Y ยังได้นำหุ้นที่ถืออยู่เสนอขายต่อกลุ่มผู้ลงทุนด้วยเช่นกัน คือ ทรานส์แพค นอมินีส์ พีทีอี ลิมิเต็ด นำหุ้น 2 ล้านหุ้นเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป และเรือโทสุปรีดิ์ ศรีผดุง จะเสนอขายหุ้น 1 ล้านหุ้นแก่นักลงทุนสถาบันบนกระดานรายใหญ่ (big lot) ในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยเสนอขายในราคา 7 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาเดียวกับที่บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปในครั้งนี้
ภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ S2Y ประกอบด้วย กลุ่มศรีผดุงถือหุ้นร้อยละ 40.73 และ ภายหลังเสนอขายหุ้นบนกระดานรายใหญ่ในวันแรกที่เข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ กลุ่มศรีผดุงจะถือหุ้นร้อยละ 38.29 ทรานส์แพค นอมินีส์ พีทีอี ลิมิเต็ดถือหุ้นร้อยละ 9.99 แบงค์ บอสตัน อินเวสเม้นท์ อิงค์ ถือหุ้นร้อยละ 9.92 และนายแสตลเบอร์ก นิคลาส จอนห์ แอสซ่า ถือหุ้นร้อยละ 5.22 ของทุนเรียกชำระแล้ว
ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของบมจ. สยามทูยู สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.siam2you.net เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอที่ www.mai.or.th และเว็บไซต์บ.เซ็ทเทรด ดอท คอมที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร :
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 —2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-222 2049
วรรษมน เสาวคธนธ์เสถียร โทร. 0-2229 — 2797--จบ--