กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--กรีน บีนส์
เป็นงานคุณภาพที่อัดแน่นไปด้วยเพลงดีอัลบั้ม “สักวา 49” เลยฮิตต่อเนื่องตั้งแต่เพลงเปิดตัวเริ่มจาก สักวาปากหวาน, เมื่อเขามาฉันจะไป จนมาถึง น้ำเต็มแก้ว ที่ครองอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงฮิตทั่วประเทศคนร้องเพลงของวง “เอ็นโดรฟิน”สังกัดจีเอ็มเอ็มแกรมมี่กันได้ทั้งบ้านทั้งเมืองเรียกว่า... ลบอาถรรพณ์ชุดสองได้สนิทใจ แต่ก็ไม่วายเจออุปสรรคจนได้เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมา “ดา” ธนิดา ธรรมวิมล นักร้องนำป่วย!! จากสาเหตุเกิดเนื้องอกที่เส้นเสียงซึ่งมีผลให้ “ดา”ไม่มีเสียงและถ้าฝืนใช้เสียงต่อไปอาจทำให้อาการรุนแรงถึงกับต้องผ่าตัด “ดา”จึงจำเป็นต้องขอเวลานอกเพื่อนๆในวง เกี้ย-อนุชา บ่อทองคำกุล (กีตาร์),บอมป์- ฐปพล อมรมานัส (กลอง) และ เบิร์ด-ธนัศม์ อมรมานัส (เบส) หยุดทำงานเป็นการชั่วคราวรวมถึงยกเลิกงานแสดงคอนเสิร์ต ,งานจ้างต่างๆ เพื่อพักรักษาตัวตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งสวนกระแสการตอบรับของเพลงที่รุนแรงข้ามปีและแฟนๆต่างเป็นห่วงเป็นใยในอาการป่วยของ “ดา” รวมทั้งรอคอยการกลับมาเล่นคอนเสิร์ตของ “เอ็นโดรฟิน” อีกครั้ง โดยล่าสุดหลังจากที่ได้พบแพทย์ผู้ดูแลแล้ว “ดา”เล่าถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยของตัวเองว่า...
“ ก่อนอื่นต้องขอบคุณแฟนเพลงทุกคนมากสำหรับความห่วงใยและเสียงเรียกร้องที่อยากดูพวกเราเอ็นโดรฟินเล่นคอนเสิร์ต ดากับเพื่อนๆก็อยากร้องเพลง-เล่นดนตรีกันใจจะขาดแต่สุดวิสัยจริงๆตามที่ทุกคนทราบนะคะว่า ดาป่วย แต่หลังจากพักกินยามาประมาณสองอาทิตย์กว่า ดาก็ได้ไปหาคุณหมอมาแล้ว คุณหมอบอกว่า ดาอาการดีขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ เนื้องอกตรงเส้นเสียงมีขนาดลดลง ซึ่งจริงๆคุณหมอก็บอกให้พักต่ออีกระยะเพราะจะทำให้เนื้องอกหายเอง แต่เนื่องจากงานมีเข้ามามาก ทุกคนรอกันมานานพอสมควร ก็หยุดไม่ได้จริงๆ เลยพบกันครึ่งทางคือดาสามารถร้องเพลงได้ ทำงานได้แต่อย่าหักโหม ต้องทำแบบพอดีๆ วันนึงทำแค่หนึ่งงาน และต้องขอหยุดพักอาทิตย์ละสองวัน แล้วร้องเสียงดัง เปล่งเสียงเต็มที่อย่างเดิมไม่ได้ ต้องดูแลตัวเองมากกว่าเดิม ไม่งั้นเสียงอาจแหบไปเฉยๆ ซึ่งนอกจากกินยา คุณหมอก็แนะนำให้ฝึกสปีช( SPEECH) หรือการพูดให้ถูกวิธี คล้ายเรียนร้องเพลงที่เป็นคุณหมอสอน ส่วนเรื่องงานเพลงเร็วๆนี้จะมีถ่ายมิวสิกวิดีโอ “อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง” แต่ดาคงแค่ถ่ายซิงคเส้นร้อง ตะเบ็งเสียงเต็มที่ไม่ได้แล้วก็อยากให้ทุกคนติดตามมิวสิกฯใหม่ของพวกเราและผลงานของเอ็นโดรฟินไปตลอดนะคะ ” ดา พูดทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดี
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--