ฮิตาชิคาดตลาดฮาร์ดไดรฟ์ทะลุเป้ารับฉลองครบ 50 ปีอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์

ข่าวเทคโนโลยี Friday April 7, 2006 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
ไอดีซีระบุ อุตสาหกรรมจะป้อนฮาร์ดไดรฟ์สู่ตลาดในอีกห้าปีข้างหน้าเท่ากับจำนวนทั้งหมด ที่เคยป้อนสู่ตลาดใน 50 ปีที่ผ่านมา พร้อมมีการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง
บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ ประกาศความเชื่อมั่นรับปีทอง ของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ว่า อุตสาหกรรมผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ได้รับการตอบรับสูงสุด นับตั้งแต่เริ่มการประดิษฐ์ ฮาร์ดไดรฟ์ และด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท ฮิตาชิ คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การผลิตที่มีศักยภาพสูงสุดจะทำให้การขยายตัวของตลาดเพิ่มสูงกว่าปัจจุบันถึง 3 เท่า ภายในสิ้นทศวรรษนี้ ประมาณ 200 ล้านชิ้นต่อปี
ข้อมูลจาก DISK/TREND ระบุว่า ในวงการอุตสาหกรรมนี้ ใช้เวลาเกือบ 50 ปี ในการผลิตฮาร์ดไดรฟ์ 2 พันล้านชิ้นป้อนสู่ตลาด ยิ่งไปกว่านั้น ไอดีซี ในฐานะบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลยังคาดการณ์ว่า ในอีกไม่ถึง 5 ปีข้างหน้าการผลิตฮาร์ดไดรฟ์สู่ตลาดจะมีปริมาณเทียบเท่ากับจำนวนการผลิตในรอบ 50 ปีที่ผ่านมารวมกัน
มร. ฮิโรอากิ นากานิชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่า ในอนาคต จะไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ สามารถแทนที่ฮาร์ดไดรฟ์ได้ ทั้งในด้านประสิทธิภาพความจุและความโดนเด่นในด้านราคา และเรายังมองว่า อุตสาหกรรมกำลังอยู่ในช่วงจังหวะที่ดีที่สุด และได้รับการตอบรับมากที่สุดและไม่ว่าตลาดฮาร์ดไดรฟ์จะก้าวไปในทิศทางไหนก็มีแต่จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และฮิตาชิ ได้ทุ่มทุนมาโดยตลอดเพื่อรับกับการเจริญเติบโตในธุรกิจนี้
ความต้องการของฮาร์ไดรฟ์ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีความสำคัญอันหนึ่งของมนุษยชาติ เป็นที่คาดหวังว่าจะสามารถพัฒนาให้มีความจุเพิ่มมากขึ้น จากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เบิร์คเลย์ ระบุว่า ในปี 2548 ที่ผ่านมา ข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลกได้ถูกเก็บอยู่ในอุปกรณ์แถบแม่เหล็กถึง 99.5 เอ็กซ่าไบต์ (EB) โดยเพิ่มจากปี พ.ศ. 2543 ที่มีจำนวนเพียง 7 เอ็กซ่าไบต์ (1 เอ็กซ่าไบต์ เท่ากับ 1.074 พันล้านกิกะไบต์ )
ในวาระที่การผลิตฮาร์ดไดรฟ์ดำเนินมาครบรอบ 50 ปี ได้มีสิ่งสำคัญเกิดขึ้นดังนี้
ในตลอดระยะ 50 ปีที่ผ่านมา areal density หรือความหนาแน่นในการบีบอัดข้อมูลต่อตารางนิ้วของแผ่นดิสก์นั้น ได้เพิ่มขึ้นถึง 50 ล้านเท่า หรือในทางตรงกันข้าม ขนาดของอุปกรณ์การเก็บข้อมูลได้ย่อขนาดเล็กลงประมาณ 50 ล้านเท่า
RAMAC คือ ฮาร์ดไดรฟ์รุ่นแรก ที่มีขนาดความจุ 5 เม็กกะไบต์ เปิดตัวเมื่อวันที่ 13 กันยายน เมื่อ พ.ศ. 2499 ปัจจุบัน ฮาร์ดไดรฟ์ที่มีความจุสูงสุด 500 เม็กกะไบต์ คือ รุ่น Deskstar 7K500 ซึ่งมีฮิตาชิเป็นผู้บุกเบิกตลาด
ในปี พ.ศ. 2499 ฮาร์ดไดรฟ์ RAMAC มีราคาประมาณ 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 10,000 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งเม็กกะไบต์ ในปัจจุบัน ความจุ 1 กิกะไบต์ในฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 3.5นิ้วมีราคาต่ำกว่า 50 เซนต์
ปัจจุบัน ข้อมูลที่ถูกจัดทำขึ้น มากกว่า 92 เปอร์เซ็นต์จะถูกเก็บบนแถบแม่เหล็ก ที่มีฮาร์ดไดรฟ์เป็นอุปกรณ์หลัก
จากบทบาทในการปกป้องข้อมูลทั่วโลกมาเป็นเวลา 50 ปี ฮิตาชิเชื่อมั่นว่า ฮาร์ดไดรฟ์ ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้งานคอมพิวเตอร์ทั้งส่วนบุคคลและในทางธุรกิจมากกว่าที่เคยเป็นมา
ฮิตาชิได้รับสิทธิ์ในสืบทอดและพัฒนานวัตกรรมฮาร์ดไดรฟ์ อันเนื่องมาจากการควบรวมธุรกิจฮาร์ดไดรฟ์กับบริษัทไอบีเอ็มในปี พ.ศ. 2546 ไอบีเอ็มได้คิดค้นฮาร์ดไดรฟ์ ณ เมืองซานโฮเซ่ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และนำเสนอสู่ตลาดเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2449 ภายใต้ชื่อ RAMAC หรือ (Random Access Method of Accounting and Control)
ฮิตาชิได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 51 ในการผลิตฮาร์ดไดรฟ์ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาทิ perpendicular recording, patterned media, thermally-assisted recording นับเป็นส่วนสำคัญสำหรับการเก็บข้อมูลบนแถบแม่เหล็ก และในปี 2549 นี้ นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี โดยฮิตาชิจะพัฒนาชิ้นส่วนหลักในฮาร์ดดิสก์
อันได้แก่ หัวอ่านและแผ่นดิสก์ รวมไปถึงขั้นตอนกระบวนการผลิต ด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ผ่านมา ฮิตาชิได้ประสบความสำเร็จในการผลิตฮาร์ดไดรฟ์ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูงสุด ฮิตาชิมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสนองตอบความต้องการเฉพาะในแต่ละอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ประสิทธิภาพสูง
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับนวัตกรรมตลอด 50 ปีของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ได้ที่เว็บไซต์ www.hitachigst.com/50years .
เกี่ยวกับ ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ฮิตาชิ จีเอสที)
ฮิตาชิ จีเอสที ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2546 ในฐานะที่เป็นบริษัทร่วมระหว่าง ฮิตาชิ และ ไอบีเอ็ม โดยมีเป้าหมายในการประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล จุดมุ่งหมายหลักของบริษัทฯ คือการอำนวยความสะดวกด้านการเข้าถึงข้อมูลดิจิตอลปริมาณมากๆ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลได้อย่างสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมการใช้งานทั้งในสำนักงาน บนท้องถนนหรือที่บ้านพักอาศัยทั่วไป ทำให้ผู้บริโภคสามารถดำเนินชีวิตในโลกดิจิตอล ด้วยการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์คุณภาพสูง จากประวัติอันยาวนานในการประดิษฐ์ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ฮิตาชิ จีเอสที จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดด้วยการฉลองปีทองของเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลในปี พ.ศ. 2549 ฮาร์ดไดรฟ์มีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และคอนซูมเมอร์อิเล็กทรอนิคส์ภายหลังการคิดค้นนวัตกรรมไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว และสิ่งนี้คือมรดกของฮิตาชิในวันนี้ สู่นิยามของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ขนาดเล็กที่ได้มาตรฐาน ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล ประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือ
ฮิตาชิมีพนักงานประมาณ 27,000 ทั่วโลก บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการเก็บข้อมูลหลากหลายประเภทเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์มือถือทั่วไป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮิตาชิ จีเอสที โปรดเข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัท www.hitachigst.com
เกี่ยวกับ Hitachi, Ltd.
Hitachi, Ltd. (NYSE: HIT) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก ที่มีพนักงานราว 347,000 คนทั่วโลก ในปีพ.ศ. 2547 บริษัทฯ มียอดจำหน่ายสินค้าโดยรวม (ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548) อยู่ที่ 9,027 พันล้านเยน (84.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) บริษัทมีผลิตภัณฑ์ ระบบ และบริการทางธุรกิจที่หลากหลายครอบคลุมตลาดมากมาย อาทิ ตลาดระบบสารสนเทศ ตลาดอุปกรณ์ อิเล็กโทรนิกส์ ตลาดระบบพลังงานและอุตสาหกรรม ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค และตลาดบริการทางการเงินและวัสดุภัณฑ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hitachi โปรดเข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัท http://www.hitachi.com
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
มร. นีล แมคคาร์ธี - ประธาน
สริญญา สาระสุทธิ — ที่ปรึกษางานประชาสัมพันธ์
บริษัท เวเบอร์ แชนด์วิค (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-287-1000 ต่อ 232
อีเมล์ neal.mcc@webershandwick.co.th
sarinya.sar@webershandwick.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ