Paradise Now เสียงเพรียกของสันติภาพ

ข่าวทั่วไป Tuesday May 16, 2006 10:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--สหมงคลฟิล์ม
นอกจาก Brokeback Mountain ที่พลาดรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปท่ามกลางความกังขาของหลายฝ่ายแล้ว ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมก็สร้างความฉงนให้ใครต่อใครได้ไม่แพ้กัน เนื่องจาก Paradise Now ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘เต็งหนึ่ง’ ในสาขาดังกล่าว อีกทั้งยังตระเวนกวาดรางวัลสำคัญๆ จากเทศกาลหนังใหญ่น้อยต่างๆ มาแล้วทั่วโลก ท้ายที่สุดกลับไม่ได้ออสการ์อย่างที่กะเก็งกันไว้
อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีควรต้องปล่อยวางเรื่องของออสการ์แต่เพียงเท่านั้น ไม่ได้ไม่เป็นไร สิ่งใดผ่านพ้นแล้วย่อมไม่อาจเรียกร้องให้หวนคืน
อีกทั้งในความเป็นจริงแล้ว การที่พลาดท่าจากรางวัลดังกล่าวไป ก็ไม่ได้ทำให้ความโดดเด่น คุณภาพ และความน่าสนใจของ Paradise Now ลดน้อยถอยลงเลยสักนิด
Paradise Now เป็นผลงานกำกับของ ฮานี อาบู-อัสซาด คนทำหนังชาวปาเลสไตน์ บอกเล่าเรื่องราวช่วงสุดท้ายในชีวิตของหนุ่มปาเลสไตน์ 2 คน ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ ‘มือระเบิดพลีชีพ’ โจมตีกรุงเทลอาวีฟ ศูนย์กลางทางการค้าของอิสราเอล
จุดเด่นของหนังอยู่ที่การนำเสนอภาพของมือระเบิดพลีชีพในแบบที่ผู้ชมไม่เคยเห็นมาก่อน จากเดิมที่สื่อต่างๆ ทำให้คำว่า ‘มือระเบิดพลีชีพ’ มีความหมายเทียบเท่ากับคำว่า ‘ผู้ร้าย’ และใช้ผลของการกระทำโน้มนำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า คนกลุ่มนี้ไร้หัวใจ ไม่มีความเป็นมนุษย์…
ทว่า Paradise Now กลับแสดงให้เห็นว่า ในความเป็นจริงแล้ว ‘มือระเบิดพลีชีพ’ มีหัวจิตหัวใจและมีชีวิตไม่ต่างจากคนปรกติทั่วไป พวกเขามีครอบครัว มีพ่อแม่พี่น้อง รักคนอื่นได้ และที่สำคัญ พวกเขารู้จัก ‘ความกลัว’ เช่นเดียวกัน
เหนือชั้นกว่านั้นก็คือ แม้ Paradise Now จะเป็นหนังที่กำกับโดยชาวปาเลสไตน์ และเล่าเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครปาเลสไตน์ กระนั้นนี่ก็ไม่ใช่หนังที่ทำขึ้นเพื่อเชิดชูพวกเดียวกันเองและต่อต้านประณามฝ่ายตรงข้ามอย่างสุดโต่ง
ตรงข้าม หนังให้ความยุติธรรมต่อคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายโดยเท่าเทียมกัน ด้านหนึ่งชี้ให้เห็นมูลเหตุที่มาของความคับแค้นต่างๆ ที่ฝ่ายปาเลสไตน์ประสบ ในขณะที่อีกด้านก็แสดงให้เห็นว่า มีชาวอิสราเอลที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทว่ากำลังจะตกเป็นเหยื่อในปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้
นอกเหนือจากประเด็นสาระที่ถือว่าแปลกใหม่และ ‘ท้าทาย’ อย่างยิ่งแล้ว เบื้องหลังการถ่ายทำ Paradise Now ยังเร้าใจไม่แพ้เนื้อหาของหนัง หนังใช้สถานที่ถ่ายทำสุดเสี่ยงหลายต่อหลายแห่ง อาทิ เมืองนาบลุส เยรูซาเล็ม รวมถึงเทลอาวีฟ ความอันตรายรายรอบและความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันในสถานที่ถ่ายทำเหล่านั้น ส่งผลให้ทีมงานต่างชาติบางคนถึงกับเก็บข้าวเก็บของกลับบ้านทั้งที่เพิ่งถ่ายไปได้ไม่กี่วันเลยทีเดียว
ทั้งเนื้อหาที่ถือเป็น ‘ของใหม่’ ประเด็นที่ ‘ท้าทาย’ และมุมมองที่ ‘เข้าอกเข้าใจ’ ของผู้กำกับ ทำให้ Paradise Now กลายเป็นหนังที่เหมาะสำหรับนักดูหนังทุกชาติทุกภาษา และยังเป็นหนังที่ถ่ายทอดเสียงเพรียกของสันติภาพได้อย่างทรงพลังเหลือเกิน Paradise Now จะเข้าฉายวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ ที่โรงภาพยนตร์ House และ Lido
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ