กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
รถยนต์สำเร็จรูป 263,591 คัน เดือนมิถุนายนส่งออก 29,104 ล้านบาท เติบโต 11.1% รถยนต์สำเร็จรูป 45,780 คัน
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ประจำเดือน มิถุนายน มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 29,104 ล้านบาท เติบโต 11.1% แบ่งเป็นการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) 45,780 คัน เติบโต 23.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 20,358 ล้านบาท ชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ เครื่องยนต์และอื่นๆ มูลค่า 8,746 ล้านบาท ลดลง 1.0%
สำหรับสถิติการส่งออกสะสม 6 เดือน มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 166,806 ล้านบาท เติบโต 25.1% โดยแบ่งเป็นการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) มีจำนวนทั้งสิ้น 263,591 คัน เติบโต 38.0% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มูลค่ารวมทั้งสิ้น 117,675 ล้านบาท ชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ เครื่องยนต์และอื่นๆ 49,131 ล้านบาท เติบโต 10.9%
- มูลค่าการส่งออกรวม ประจำเดือนมิถุนายน 2549 :
มูลค่ารวม 29,104 ล้านบาท เติบโต 11.1%
อันดับ 1 โตโยต้า 11,389 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 39.1% เติบโต 25.0%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 5,806 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 19.9% เติบโต 29.2%
อันดับ 3 ฮอนด้า 4,703 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 16.2% เติบโต 21.3%
- ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ประจำเดือน มิถุนายน 2549 :
จำนวนรวม 45,780 คัน เติบโต 23.6%
อันดับ 1 โตโยต้า 15,818 คัน ส่วนแบ่งตลาด 34.6% เติบโต 49.6%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 11,280 คัน ส่วนแบ่งตลาด 24.6% เติบโต 29.1%
อันดับ 3 ฮอนด้า 5,321 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.6% เติบโต 30.3%
- มูลค่าการส่งออกรวม สะสม 6 เดือนของปี 2549
มูลค่ารวม 166,806 ล้านบาท เติบโต 25.1%
อันดับ 1 โตโยต้า 68,798 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 41.2% เติบโต 66.7%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 29,520 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 17.7% เติบโต 46.3%
อันดับ 3 ฮอนด้า 25,790 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 15.5% เติบโต 22.3%
- ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป สะสม 6 เดือนของปี 2549
จำนวนรวม 263,591 คัน เติบโต 38.0%
อันดับ 1 โตโยต้า 102,132 คัน ส่วนแบ่งตลาด 38.7% เติบโต 124.9%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 57,591 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.8% เติบโต 40.6%
อันดับ 3 ฮอนด้า 28,018 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.6% เติบโต 7.5%
นายวุฒิกร กล่าวว่า “มูลค่าการส่งออกในเดือนมิถุนายนเติบโตเพียง 11.1% ในขณะที่ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเติบโตถึง 23.6% ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยในเดือนมิถุนายนค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 38.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมาซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 40.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มูลค่าการส่งออกและการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปสามารถสร้างสถิติเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นและความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกซึ่งอาจส่งผลถึงการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ดังนั้นจึงต้องเฝ้าติดตามสถานกาณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ”
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Mahasamut Saisawan
Public Affairs Office
Toyota Motor Thailand Co.,Ltd
Tel: +66 2 305 2065
Fax: +66 2 305 2014 - 5