ผลประกอบการ บมจ.อสมท ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ข่าวทั่วไป Monday November 13, 2006 14:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--อสมท.
ผลการดำเนินงาน บมจ.อสมท ช่วงไตรมาสที่ 3 บริษัทมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 54 มีกำไรต่อหุ้น 0.57 บาท ทั้งโมเดิร์นไนน์ทีวีและโมเดิร์นเรดิโอ ยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้บริหาร บมจ.อสมท ได้แถลงถึงผลการดำเนินงานของ บมจ.อสมท ในช่วงไตรมาสที่ 3 (ก.ค. — ก.ย. 49) มีรายได้รวม 1,160 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ก.ค. — ก.ย. 48) มีรายได้ 790 ล้านบาท คิดแล้วมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 47 เนื่องจากธุรกิจหลัก คือโทร-ทัศน์และวิทยุ มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยด้านโทรทัศน์มีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 474 ล้านบาท เป็น 764 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 61 ด้านวิทยุเพิ่มขึ้นจาก 143 ล้านบาท เป็น 204 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43
จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลประกอบการด้านโทรทัศน์และวิทยุ ทำให้ บมจ.อสมทมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี ในช่วง ก.ค. — ก.ย. 49 เพิ่มขึ้นเป็น 390 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 54 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเพียง 254 ล้านบาท
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าผลประกอบการ บมจ.อสมท ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้านโทรทัศน์ บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้จากรายการประเภท Seasonal Program ได้แก่รายการ Academy Fantasia (AF) ปี 3 ที่ได้รับความนิยมมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้รับงบโฆษณาจากภาครัฐ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์สนามบินสุวรรณภูมิ และการประชาสัมพันธ์งานพืชสวนโลก คาราวานอีซูซุประหยัดน้ำ-มัน โครงการบ้านและคอนโดเป็นต้น ส่วนด้านวิทยุ ยังคงมีรายได้ที่เติบโตอย่างมั่นคงจาก 3 คลื่นหลัก ได้แก่ SEED FM.97.5 คลื่นลูกทุ่งมหานคร FM.95.0 และสถานีข่าว FM.100.5 เนื่องจากมีการจัดทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับผู้ฟังอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สำหรับอีก 3 คลื่น ที่ยังทำรายได้ไม่ถึงเป้า 10 ล้านบาทต่อเดือนนั้น คลื่นความคิด FM.96.5 มีรายได้ปรับเพิ่มขึ้น เพราะเริ่มมีการจัดกิจกรรมเสริม ส่วนคลื่น Metropolis มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการจากเพลงสากลในยุค 1960-1970 เป็นเพลงสากลสำหรับคนรุ่นใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น Met 107 โดยมีการจับมือกันทางธุรกิจกับ 4 ค่ายเพลงยักษ์จากต่างประเทศ คือ EMI, Sony BMG, Universal และ Warner Music ในวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มี Rating และรายได้ปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มส่งผลตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2549

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ