กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--ASATSU (Thailand)
จากอุปสรรคในสเตจที่ 7 ซึ่งทำให้ มานะ พรศิริเชิด นักแข่งสายเลือดไทย ตัวแทนทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ประเทศไทย พร้อมเนวิเกเตอร์ ฌ็อง บรูซี่ กับมิตซูบิชิไทรทัน อีโวลูชั่นหมายเลข 367 ต้องเข้าจุดเช็คเวลาล่าช้าไปครึ่งวันเต็ม แต่สามารถประคองตัวเข้าทำอันดับเวลารวม (Overall) ได้ที่ 76 ภายหลังจากการตรวจเช็คสภาพรถยนต์โดยทีม Service จากค่ายมิตซูบิชิมั่นใจว่าสามารถแข่งขันต่อได้อย่างแน่นอน รวมถึงได้ผ่านการตรวจสอบสภาพความพร้อมของมานะและรถจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันลิสบอน-ดาการ์ 2006 หรือ ASO [Amaury Sport Organisation
] ให้มานะสามารถดำเนินการแข่งขันในสเตจที่ 8 ต่อไปได้ โดยล่าสุดการแข่งขันในสเตจที่ 8 สนามสุดท้ายในมอริทาเนีย มานะกระโจนขึ้นอันดับ 16 อย่างสวยงามหลังผ่านจุดเช็คเวลาสเปเชี่ยลสเตจเพียงไม่กี่กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม มานะไม่สามารถแข่งจนจบการแข่งขันลิสบอน-ดาการ์ครั้งนี้ เนื่องจากสมาคมกีฬามอเตอร์สปอร์ตโลก FIA [Federation International de l’automobile
] ออกมายืนกรานหลังการตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าการแข่งขันในสเตจที่ 8 ถือเป็นโมฆะ เนื่องจากมานะจบสเตจที่ 7 โดยใช้เส้นทางธรรมดาและไม่ได้ผ่านจุดเช็คพ้อยท์เนื่องจากสาเหตุข้อขัดข้องด้านเทคนิค ฉะนั้นการแข่งขันลิสบอน-ดาการ์ 2006 ของมานะเป็นอันสิ้นสุด ซึ่งการตัดสินดังกล่าวถือความปลอดภัยของนักแข่งเป็นสำคัญ เพราะสเตจที่ 9 ซึ่งจะทำการแข่งขันต่อไปนั้น เป็นสนามที่อันตรายและโหดที่สุดในรายการนี้ แต่ทั้งนี้ถึงแม้มานะจะออกจากการแข่งขันลิสบอน-ดาการ์ 2006 ก็ตาม แต่ทางทีมมิตซูบิชิฯ ให้มานะขับติดตามทีม Service จนสิ้นสุดรายการ เพื่อศึกษาข้อมูลและเก็บเกี่ยวประสบการณ์เส้นทางจนกระทั่งถึงเมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล สำหรับเตรียมตัวแข่งในครั้งต่อไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าวกุนซือทีมแรลลี่อาร์ต ประเทศไทย นายประสาน ดวงวิบูลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า “มานะสามารถทำอันดับได้ดีอย่างต่อเนื่องโดยอันดับเวลารวม (Overall) ที่ดีที่สุดขึ้นมาถึงอันดับ 40 จนมาพบอุปสรรคในสเตจที่ 7 จึงทำให้อันดับหล่นลงไปบ้าง แต่ก็สามารถเรียกฟอร์มกลับมาได้อย่างรวดเร็วในสเตจที่ 8 โดยสามารถไล่ตามผู้นำได้เป็นอันดับ 16 ก่อนจะโดนตัดสิทธิ์การแข่งขันจาก FIA ไปอย่างน่าเสียดายก่อนจบสเตจ ซึ่งหากมานะได้แข่งขันต่อในสเตจที่ 9 ซึ่งถือเป็นสเตจวัดฝีมือนักแข่งอย่างแท้จริง เพราะยาวและยากที่สุดในรายการนี้ ผมเชื่อว่าด้วยพร้อมของมานะเอง รวมถึงสมรรถณะของรถยนต์จะสามารถจบการแข่งขันรายการนี้ด้วยอันดับที่ดีได้อย่างแน่นอน” ผู้จัดการทีมมิตซูฯ กล่าว
สำหรับการแข่งขันในสเตจต่อไป สเตฟาน ปีเตอร์อองเซล นักแข่งทีมมิตซูบิชิ เรปซอล แรลลี่อาร์ตหมายเลขรถ 302 แชมป์เวลารวม (Overall) ล่าสุดกล่าวว่า “การแข่งขันในมอริทาเนียสนามสุดท้ายในวันพรุ่งนี้นั้น ยากและโหดเอามากๆ ผมเชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในสเตจนี้ ซึ่งเราได้วางแผนเตรียมตัว พร้อมศึกษาเส้นทางไว้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าชัยชนะจะเป็นของทีมมิตซูบิชิอย่างแน่นอน” ปีเตอร์อองเซล กล่าว
หลังผ่านพ้นช่วงเวลาการพักผ่อนของบรรดานักแข่งแรลลี่ระดับโลก สเตจต่อไปจะเข้าสู่การแข่งขันที่โหดหินที่สุดของรายการ คือสเตจที่ 9 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายในมอริทาเนีย โดยจะเป็นการแข่งแบบไนท์แรลลี่ ออกสตาร์ทจากเมืองนูคโชท์ (Nouakchott) ประเทศมอริทาเนียมุ่งสู่เมืองคิฟฟา (Kiffa) ประเทศมาลีซึ่งมีสภาพภูมิประเทศ เป็นทะเลทรายกึ่งป่ารก เส้นทางจะประกอบไปด้วยกับดักทะเลทรายไม่ว่าจะเป็นเนินทรายลูกยักษ์ ทางตะปุ่มตะป่ำที่เต็มไปด้วยก้อนหิน พุ่มหญ้าทะเลทรายยังมีมาให้นักแข่งต้องหนักใจ รวมถึงแนวเขาสลับสับซ้อน และหน้าผาสูงชันที่เร็วและลมพัดแรง กับระยะทางรวมที่ยาวที่สุด 874 กม. รวมถึงสเปเชี่ยลสเตจที่ยาวที่สุดเช่นกันถึง 599 กม. กลยุทธ์สำคัญในการจะไปให้ถึงจุดหมายคือ การประสานงานกันอย่างลงตัวที่สุดของนักขับและเนวิเกเตอร์ แน่นอนสมรรถนะของรถยนต์คู่ใจเป็นกุญแจสำคัญในการไขไปสู่ชัยชนะในสเตจนี้
ขอเชิญชาวไทยและผู้ชื่นชอบกีฬามอเตอร์สปอร์ต ร่วมติดตามผลการแข่งขัน ลิสบอน-ดาการ์ 2006 โดยสามารถติดตามชมรายงานผลการแข่งขันได้ตลอดนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 ไปจนจบการแข่งขันในวันที่ 16 มกราคมนี้ ผ่านทางรายการข่าวกีฬาของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องหรือติดตามความคืบหน้าได้จาก www.dakar.com และ www.mitsubishi-motors.co.th/
Piengjai Sutthirugsa
PR Executive
ASATSU (Thailand) Co., Ltd.
Tel. 0 2367 5951 ext. 3303
Fax. 0 2367 5946
Mobile : 01-721-2187
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--