กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--ปภ.
จังหวัดสกลนคร จับมือเครือข่าย ลงนามร่วมมือในการป้องกันอุบัติภัย หวังสร้างความตระหนักและเตรียมพร้อมให้แก่ประชาชนในการรับมือกับภัยพิบัติ
นายบุญส่ง วิจักษณบุญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจงหวัดสกลนคร กล่าวถึงวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ภิบัติภัยสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ตลอดจนสิ่งสาธารณประโยชน์จำนวนมาก ดังนั้น คณะรัฐในตรี ได้เห็นชอบให้วันที่ 26 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ซึ่งในวันดังกล่าว สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร ได้ร่วมกับองค์กรเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรการกุศลต่าง ๆ จัดกิจกรรมขึ้น ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการด้านสาธารณภัย การแสดงสาธิตของชุด OTOS ในการช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางถนน การเสวนาเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างถูกวิธี โดย อาจารย์นิกร สุขปรุง ซึ่งได้รับอันตรายรุนแรงจากการช่วยเหลือที่ไม่ถูกหลักวิชาการ พร้อมทั้ง มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยระหว่าง นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กับองค์กรเครือข่ายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เหล่าการชาดจังหวัดสกลนคร เทศบาลเมืองสกลนคร ประธานหอการค้า ฯ ประธานสภาอุตสาหกรรม ฯ รวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรการกุศลต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างเครือข่าย ในการสร้างความตระหนัก ถึงความสูญเสียอันเกิดจากภัยพิบัติให้แก่ประชาชน รณรงค์และเสริมสร้างให้ประชาชนรู้จักป้องกันตนเองและให้ชุมชนพร้อมในการเผชิญเหตุภัยพิบัติ อีกทั้งเพื่อก่อให้เกิดจิตสำนึกด้านความปลอดภัย (safety mind) และพัฒนาไปสู่วัฒนธรรมความปลอดภัย (safety culture) สร้างการเตรียมความพร้อม มีระบบบริหารจัดการที่ดีเพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น
ในการนี้ จะมีการวางพวงหรีดและยืนสงบนิ่ง เพื่อไว้อาลัยให้แก่ผู้ประสบภัยสึนามิ และนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร จะมอบผ้าห่ม จำนวน 5,000 ผืน ให้แก่นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น ทั้งนี้ กิจกรรมต่าง ๆ กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2549 ณ บริเวณลานพระรูปรัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลาง ตั้งแต่เวลา 17.00 น เป็นต้นไป