เอ็มเอฟซี ออก 2 กองทุนใหม่ M-CR และ M-66R กระตุ้นการลงทุนในงาน SET in the City ส่งท้ายปีระกา

ข่าวทั่วไป Monday November 14, 2005 10:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--เจดับลิวที พับลิครีเลชั่นส์
บลจ.เอ็มเอฟซี เตรียมส่ง 2 กองทุนใหม่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีคุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (MFC Capital Protection Retirement Mutual Fund) หรือ M-CR และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี หก-หก
โรลโอเวอร์ (MFC six-six Roll over Fund) หรือ M-66R กระตุ้นการลงทุนช่วงโค้งสุดท้ายปีระกาเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนในภาวะเงินเฟ้อดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับ นักลงทุนที่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม และเพื่อกระตุ้นการลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2548 บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จึงเปิดขายกองทุนใหม่ 2 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น (Capital Protected Fund) ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีคุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (MFC Capital Protection Retirement Mutual Fund) หรือ M-CR และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี หก-หก โรล โอเวอร์ (MFC six-six Roll over Fund) หรือ M-66R เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตราสารหนี้ เปิดขายกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีคุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ M-CR เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพแบบคุ้มครองเงินต้น (Capital protected fund) มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท โดยไม่จ่ายเงินปันผล มีนโยบายการลงทุนเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 เพื่อคุ้มครองเงินต้น โดยกองทุนจะนำเงินในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80
ของมูลค่าหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ไปลงทุนในตราสารหนี้ประเภทพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใน 4 อันดับแรกของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อคุ้มครองเงินต้นและมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนครบแต่ละรอบการลงทุน (รอบละ 5 ปี)
สำหรับการลงทุนในส่วนที่เหลือ จะนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุนที่คาดว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี รวมทั้งตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หลักทรัพย์หรือ ทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น และหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยกองทุนเปิด M-CR จะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 17-30 พฤศจิกายน 2548 ผู้ที่สนใจลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท อีกกองทุนหนึ่งที่จะเสนอขายในช่วงเดียวกันคือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี หก-หก โรลโอเวอร์ (MFC six-six Roll over Fund) หรือ M-66R ซึ่งเป็นกองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น (Capital protected fund) เช่น เดียวกัน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล เพื่อส่งเสริมการออมเงินระยะสั้น โดยกองทุนจะนำเงินไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนไปลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และตราสารทางการเงินที่มีคุณภาพที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่มีอายุใกล้เคียงหรือเท่ากับ 6 เดือน เพื่อคุ้มครองเงินต้นทุกงวด 6 เดือนของผู้ถือหน่วย โดยผู้ถือหน่วยลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนเป็นเวลา 6 เดือนนับจากวันที่เริ่มลงทุนจนถึงวันสิ้นรอบเดือนที่ 6 ซึ่งเป็นวันครบรอบระยะเวลาการลงทุนของแต่ละรอบ กองทุนเปิด M-66R จะเสนอขายระหว่างวันที่ 14-29 พฤศจิกายน 2548 นี้ ผู้สนใจลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาทเป็นต้นไป
ดร.พิชิต กล่าวต่อไปว่า จากรูปแบบของกองทุนเปิด M-CR และกองทุนเปิด M-66R ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่คุ้มครองเงินต้นทั้งสองกองทุน จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะกองทุนเปิด M-CR เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการออมเงินไว้ใช้ในระยะยาวหลังเกษียณอายุ และยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสามารถนำเงินลงทุนมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย
ทั้งนี้เอ็มเอฟซีมีกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่มีนโยบายการลงทุนหลากหลายประเภทให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้ลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคลคือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีออมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-SAVING) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-BOND) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-FIX) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเงินทุนสร้างค่า
เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-VALUE) และล่าสุดคือกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีคุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-CR)
นักลงทุนที่สนใจซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด M-CR และกองทุนเปิด M-66R สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2661-9000 ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน (Investment Planner) ต่อ 111 และ MFC Call Center ต่อ 555 หรือที่เว็บไซต์
www.mfcfund.com หรือที่บู้ธของเอ็มเอฟซี หมายเลข 52-54 ในงาน SET in the City ที่ห้อง
Planery Hall ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สำหรับกองทุน M-66R สามารถติดต่อซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน ได้แก่ บริษัท หลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาในกรุงเทพและปริมณฑล และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)
Porntipa Yoosang (Aun)
PR Executive
JWT
21/F UBC II Building
591 Sukhumvit 33 Road, Wattana
Bangkok 10110
Tel. +662-204-8215
Fax.+662-259-9246
Cell.+661-8134429
E-mail : porntipa.yoosang@jwt.com--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ