กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--อาร์เอส
บทประพันธ์โดย กลุ่มคิดดี
บทโทรทัศน์โดย ศิววุธ ไพรีพินาศ
กำกับการแสดงโดย องอาจ สิงห์ลำพอง
ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3
ออกอากาศเวลา 11.15น.
ในงานฉลองครบรอบ 100 ปี วัดโพธิ์ทอง อยู่ๆ หลังคาโบสถ์ก็ถล่มลงมา ทำให้ชาวบ้านพากันสังหรณ์ใจว่าจะเป็นลางร้ายและมีเภทภัยเกิดขึ้นในชุมชน และแล้วเภทภัยที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็น เณรน้อย (น้องพี ม๊กจ๊ก)เจ้าปัญหาที่บวชเข้ามาอยู่ในวัด เพราะสร้างความปั่นป่วนอลเวงให้กับหลวงตาเปรื่อง (ไพโรจน์ ใจสิงห์) เจ้าอาวาสเป็นอย่างมาก แต่ก็ได้ พล(แท็ค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) เด็กวัดรุ่นโข่ง จิตใจดี ยื่นมือเข้ามาช่วย ในขณะเดียวกัน พลเองก็มีปัญหาส่วนตัวเนื่องจากไปหลงรัก พวงชมพู(เบลล์-รินทร์รตา อินทามระ) ลูกสาว คุณหญิงดารณี(ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี) เศรษฐีนีที่เป็นผู้อุปถัมภ์วัด แต่ก็ต้องถูกฝ่ายแม่ของฝ่ายหญิงขัดขวางและกีดกัน ทางเดียวที่ทั้งสองจะได้ติดต่อกันก็คือ พวงแสด( เพลย์-แพรพลอย โอรี) น้องสาวของพวงชมพูที่คอยแอบเป็นแม่สื่อให้ ชาวบ้านในชุมชนยังคงใช้วัดเป็นที่พึ่งพักพิงยามประสบกับปัญหาไม่ว่าจะเป็น เรื่องเล็ก หรือใหญ่ ความเดือดร้อน ทุกข์ใจ เสียใจ อกหัก รักคุด ก็หวังจะไปพึ่งวัดซะทุกที ส่วนทางด้านพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายต่างมีปัญหากันได้ไม่เว้นแต่ละวัน นำทีมโดย เจ๊หงส์(จิ๊ก-เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) กับ เฮียเล้ง ศัตรูคู่อาฆาต เมื่อหาข้อยุติไม่ได้ก็ไปฟ้องวัด ให้หลวงตาเปรื่องใช้ธรรมะหาทางออกให้ สามวันดีสี่วันไข้กันอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนหลวงตาเองก็แทบจะลมจับ ดีที่ได้ไหวพริบของเณรน้อยเจ้าปัญญาคอยช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแม้จะผิดท่าผิดทางไปบ้างก็ตาม
นอกจากปัญหาของชาวบ้านแล้ว ยังมีเรื่องราววุ่นวายที่เกิดจากเหล่ามารศาสนาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพวกสำนักเข้าเจ้าเข้าทรง พ่อมดหมอผี พ่อค้าขายของเก่าที่ส่งคนมาลักลอบขโมยโบราณวัตถุอายุร่วมร้อยปีของวัด ไหนจะนักการเมืองที่ชอบจัดงานวัด ทำบุญกฐิน ผ้าป่า
เพื่อเรียกคะแนนเสียง แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่หลวงตาและพลต่างก็ต้องช่วยกันพยุงวัดไปให้ตลอดรอดฝั่ง โดยมีเณรน้อยคอยช่วยก่อทั้งปัญญาและปัญหาไปพร้อมๆ กัน
ต่อมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเณรน้อยเป็นเณรวิเศษ ชาวบ้านพากันมาเคารพบูชา เณรน้อยหลงระเริงไปกับชื่อเสียงจนหลวงตาเปรื่องต้องตัดสินใจพาออกธุดงค์ไปด้วยกันเพื่อให้เรียนรู้พระธรรมคำสอนอย่างสงบ ในขณะที่พลซึ่งทำท่าว่าจะอกหักจากพวงชมพูก็ถือโอกาสนี้ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อตัดใจ การออกธุดงค์ครั้งนี้ทำให้ได้พบกับเรื่องราวชีวิตสนุกเศร้าเคล้าเสียงหัวเราะของเหล่ามนุษย์นอกเหนือจากในชุมชนเดิมๆ ทั้งเณรน้อยและพลต่างก็ได้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตมากขึ้น เมื่อกลับมาถึงวัดอีกครั้ง ก็ต้องเจอกับปัญหาเรื่องของผู้มีอิทธิพลที่ไล่ที่ชาวบ้านรอบๆ วัดเพื่อเอาไปทำสถานเริงรมย์ คราวนี้ทั้งพระและฆราวาสก็ต้องร่วมมือกันปราบมารครั้งใหญ่ เพราะความร่วมใจสามัคคีทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีสมดั่งคำว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม หนำซ้ำยังได้เงินมาบูรณะหลังคาโบสถ์ใหม่ด้วย
หลังปัญหาใหญ่ผ่านพ้นไป พลก็คิดจะละทางโลก บวชพระตลอดชีวิต เมื่อพวงแสดมารู้เข้าจากเณรน้อยก็รีบไปบอกพวงชมพู ในคืนก่อนบวชนั่นเอง ที่เกิดเหตุการณ์อันตรายขึ้นกับครอบครัวของดารณีเศรษฐีใหญ่ คนร้ายบุกเข้าปล้นทรัพย์จับตัวพวงชมพูไปเป็นตัวประกัน เมื่อพลรู้เข้าก็รีบไปช่วยพวงชมพูออกมาจากคนร้ายได้สำเร็จด้วยไหวพริบจากเณรน้อย ความกล้าหาญของพลทำให้คุณหญิงดารณีใจอ่อน ยอมรับให้พลคบหากับพวงชมพู พลต้องเลือกระหว่างการละจากทางโลกกับความรัก พลรู้ว่าตนยังไม่อาจตัดใจจากความรักได้ หลวงตาเปรื่องจึงหันไปปลุกปั้นเณรน้อยแทนด้วยความปวดหัวราวกับวัดจะร้าวระเบิด
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net