กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ตลท.
งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 6 MONEY EXPO 2006 ปิดฉากงดงาม ด้วยยอดผู้เข้าชมงานกว่า 6 แสนคน ดันเงินสะพัด 5.8 หมื่นล้านบาท แห่กู้ซื้อบ้านอันดับหนึ่ง 4.1 หมื่นล้านบาท สินเชื่อ SMEs ยังโดดเด่นครองที่สองยอดพุ่ง 1 หมื่นล้านบาท ส่วนสินเชื่อบุคคลอันดับสาม 1.8พันล้านบาท อันดับสี่ หอบเงินเปิดบัญชี 1.7 พันล้านบาท สลากออมทรัพย์ติดอันดับห้า 1.3 พันล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการกว่า 9 หมื่นราย
นายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน MONEY EXPO 2006 เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินครั้งที่ 6 MONEY EXPO 2006 ชีวิตหลากสีสัน : The Colors of Life ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามอีกปีหนึ่ง โดยมีประชาชน นักธุรกิจ นิสิต นักศึกษา และนักเรียน ให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างคับคั่งตลอดทั้ง 4 วัน กว่า 6 แสนคน
นายสันติกล่าวว่า งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 6 ยังบรรลุเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้เข้าชมงานทุกระดับเข้าถึงแหล่งเงินอย่างเท่าเทียมกัน และมีทางเลือกในการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายในงาน เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต จากธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ บริษัทการเงิน บริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย บริษัทเงินทุน/บริษัทลิสซิ่ง บริษัทหลักทรัพย์/บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โดยปริมาณธุรกรรมภายในงานมีมูลค่ากว่า 58,000 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการกว่า 9.2 หมื่นคน
สินเชื่อบ้านยังคงเป็นธุรกรรมที่ผู้เข้าชมงานสมัครใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยมูลค่าสูงถึง 41,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70 % ของปริมาณธุรกรรมรวม เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษให้กับลูกค้าภายในงาน
ส่วนธุรกรรมที่ผู้สมัครใช้บริการมากเป็นอันดับสองคือ สินเชื่อ SMEs โดยมีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นกว่า 17% ของปริมาณธุรกรรมรวม ขณะที่อันดับสามได้แก่ สินเชื่อบุคคล ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1,800 ล้านบาท
นายสันติกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ธุรกรรมทางการเงินที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ได้แก่ การเปิดบัญชีเงินฝากและการซื้อสลากออมทรัพย์ที่มีมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้เข้าชมงานแสวงหาอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับธนาคารเองมีความต้องการระดมเงินฝาก โดยแข่งขันกันเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษที่จูงใจภายในงาน
ทั้งนี้ ผู้เข้าชมงานยังให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาว เพื่อความมั่นคงของชีวิต โดยเห็นได้จากตัวเลขการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้งจากบริษัทประกันชีวิตและแบงก์แอสชัวรันส์ถึง 1,904 ราย คิดเป็นมูลค่ารวม 368 ล้านบาท นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์และซื้อกองทุนรวมกว่า 2,352 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าผู้เข้าชมงานแสวงหาทางเลือกในการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
นายสันติกล่าวว่า แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีบรรยากาศที่ซบเซาจากทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น สถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน แต่ธนาคาร สถาบันการเงิน แต่ละแห่งที่เข้าร่วมงาน ต่างมีความพอใจกับความสำเร็จของยอดสมัครใช้บริการธุรกรรมทางการเงินที่สูงเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ชมงาน พบว่า ผู้เข้าชมงานมีความพึงพอใจสูงสุดจากการเข้าชมงาน เพราะสามารถเลือกใช้บริการทางการเงินจากธนาคารและสถาบันการเงินที่หลากหลาย และได้รับบริการอย่างครบถ้วนภายในงาน จึงถือว่างาน Money Expo 2006 บรรลุเป้าหมายของการจัดงานที่ต้องการเป็นสื่อกลางระหว่างสถาบันการเงินและลูกค้ารายย่อยอย่างแท้จริง