อัสซุสเทคย้ำภาพผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กไทย พร้อมเปิดตัวโน้ตบุ๊ก 5 รุ่น ใช้ Napa Platform ของอินเทล

ข่าวทั่วไป Thursday January 19, 2006 15:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--เพาเวอร์ พลัส
อัสซุสเทคย้ำภาพผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กไทย ประกาศเปิดศูนย์บริการรองรับลูกค้า พร้อมเปิดตัวโน้ตบุ๊ก 5 รุ่น ใช้ Napa Platform ของอินเทล
อัสซุสเทค ผู้นำตลาดไอที ย้ำจุดยืนชัดเจนในการรุกตลาดโน้ตบุ๊กอย่างจริงจังในไทย ตั้งเป้าหมายขึ้นแท่นผู้นำ 1 ใน 3 ของตลาด ประกาศเปิดศูนย์บริการ (Service Center) คุณภาพมาตรฐาน เพื่อรองรับและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พร้อมปูพรมเปิดตัวโน้ตบุ๊ก 5 รุ่นพร้อมกัน ที่มาพร้อมกับ “Napa Platform” เทคโนโลยีล่าสุดจากอินเทล หวังเจาะกลุ่มเป้าหมายครบทุกเซกเม้นท์ เผยผลประกอบการปี 2005 ผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กอัสซุสเทคโตเกิน 100 เปอร์เซ็นต์
นายพรเทพ วัชรอำนวย ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเปิดเผยในโอกาสแถลงข่าวเพื่อเปิดศูนย์บริการ (Service Center) อัสซุสเทคอย่างเป็นทางการ รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กจำนวน 5 รุ่น คือ W2J, A7J, W5F, A6J และ V6J
เปิดศูนย์บริการ (Service Center) คุณภาพมาตรฐานสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า เน้นให้บริการผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กและพีดีเอ โฟน
อัสซุสเทค มีโครงการที่จะขยายการบริการสู่กลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด หนึ่งในกลยุทธ์การบริหารงานของอัสซุสเทค ก็คือมาตรฐานการบริการที่เชื่อถือได้ ดังนั้น การเปิดศูนย์บริการในประเทศไทย จึงถือเป็นการตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้าของอัสซุสเทคได้อย่างดี และในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอยู่แล้วว่าการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กนั้น ลูกค้าจะให้ความสำคัญเรื่องการบริการอย่างมาก ดังนั้น การได้รับบริการจากเจ้าของสินค้าหรือเจ้าของแบรนด์โดยตรงย่อมสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้อย่างดี
สำหรับศูนย์บริการอัสซุสเทคในประเทศไทยจะเน้นให้บริการในผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กและพีดีเอ โฟน ซึ่งขอบข่ายการให้บริการในแต่ละศูนย์บริการจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่นโยบายและความเหมาะสมของตลาดในแต่ละศูนย์บริการของแต่ละประเทศที่มีสำนักงานสาขาของอัสซุสเทคตั้งอยู่ แต่จะต้องรักษามาตรฐานตามที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงเป้าหมายที่สุด
นอกเหนือไปจากลูกค้าที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงแล้ว ดิสทริบิวเตอร์และตัวแทนจำหน่ายก็ยังเป็นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์เช่นกัน ทั้งนี้เพราะจะช่วยให้เราสื่อสารกับดีลเลอร์และดิสทริบิวเตอร์ได้อย่างใกล้ชิดสามารถรับทราบปัญหาทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้แก้ไขปัญหาและรับมือกับสถานการณ์ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายมีความมั่นใจมากขึ้นในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อัสซุสเทค
ปูพรมวางตลาดโน้ตบุ๊ก 5 รุ่น ซึ่งใช้เทคโนโลยีล่าสุดของอินเทล “Napa Platform”
ตั้งเป้าขยายตลาดปี 2006 อีก 100 เปอร์เซ็นต์ มั่นใจปีนี้จะขึ้นแท่นผู้นำ 1 ใน 3 ของตลาด
ปี 2006 เป็นปีที่ทางอัสซุสเทค มีแผนการตลาดที่จะรุกตลาดโน้ตบุ๊กอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าหมายจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้ครบในทุกเซกเม้นท์ โดยจะเปิดตัวโน้ตบุ๊กพร้อมกัน 5 รุ่น โดยทุกรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ ใช้เทคโนโลยีล่าสุดของอินเทล คือ ชิปเซ็ท “Napa Platform” ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเรานั้น สามารถก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดเวลา ทั้งนี้เป็นเพราะอัสซุสเทคมีจุดเด่นในด้านการเป็นผู้ผลิตโดยตรง อีกทั้งโน้ตบุ๊กทั้ง 5 รุ่นนี้ยังมีจุดเด่นด้านการออกแบบด้วยคอนเซ็ปท์ Slim and Light ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Power 4 Gear+ รวมถึงกล้อง CCD ในตัว ทุกรุ่นอีกด้วย และสำหรับแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปแต่จะเน้นให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ครบทุกกลุ่ม
ในปี 2006 โน้ตบุ๊กอัสซุสเทคมีอัตราการเติบโตของยอดจัดจำหน่ายได้มากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่มาตรฐานอัตราการเติบโตของตลาดทั่วมีประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ และคาดการณ์ว่าสภาพตลาด ทั่วไปของปีนี้ก็จะยังคงอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์ และสำหรับอัสซุสเทคเองก็จะมั่นใจว่าจะสามารถคงอัตราการเติบโตได้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นไปตามสภาพตลาดโดยรวมที่ความนิยมในการใช้โน้ตบุ๊กมีมากขึ้นประกอบกับราคาที่ลดลงใกล้เคียงกับเดสก์ท้อปคอมพิวเตอร์ สำหรับการแข่งขันในปีนี้ของตลาดโน้ตบุ๊กจะยังคงอยู่ที่ประสิทธิภาพและความตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชัดเจน
ผลประกอบการปี 2005 อัสซัสเทคกวาดยอดขาย 2500 ล้านบาท
ปี 2006 จะขยายตลาดสู่ต่างจังหวัด, ราชการและโปรเจ็คมากขึ้น
สำหรับปี 2005 เป็นปีที่อัสซุสเทคมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะสามารถทำยอดขายได้เกินกว่าตั้งเป้าหมายไว้ คือสามารถทำได้ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2500 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนการเติบโตประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว โดยมีอัตราส่วนการเติบโตของผลิตภัณฑ์คือ ผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กโต 100 เปอร์เซ็นต์ เมนบอร์ดโตขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์, ผลิตภัณฑ์ด้านวีจีเอโตขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์
ในปี 2006 บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถทำยอดขายได้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ในตลาดโน้ตบุ๊ก สินค้าคอมโพเน้นท์การเติบโตอาจจะไม่หวือหวามากนัก ทั้งนี้เป็นไปตามสภาพจริงของตลาด แต่อย่างไรก็ตามเรายังมั่นใจว่าจะสามารถทำอัตราการเติบโตได้มากว่าอัตราเติบโตของตลาดโดยรวม และที่สำคัญในปีหน้าเราจะรุกหนักใน ตลาดด้านผลิตภัณฑ์ไวร์เลส, เน็ตเวิร์คและเซิร์ฟเวอร์ และมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตเกิน 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน บริษัทตั้งเป้าหมายจะขยายตลาดสู่กลุ่มราชการ, ลูกค้าโปรเจ็คและลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งลูกค้าในกลุ่มเหล่านี้ มีกำลังการซื้อคิดเป็นสัดส่วนในตลาดถึง 40 เปอร์เซ็นต์
อัญขนา บุญเรือง, สุวรรณี รัตนาภรณ์พิศิษฐ์
โทร. 02-264-9527
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

แท็ก อินเทล   ไอที  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ