กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--ไทยออยล์
ไทยออยล์ร่วมทุนจัดตั้งบริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด เพื่อผลิตเอทานอล ขนาดกำลังการผลิต 1 แสนลิตรต่อวัน โดยใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบ นับเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจ ช่วยเสริมให้โครงการเอทานอลของไทยออยล์มีการใช้วัตถุดิบที่หลากหลาย
นอกเหนือโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอล ขนาดกำลังการผลิต 5 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งใช้หัวมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ ที่เริ่มดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ โครงการดังกล่าวช่วยเร่งรัดการผลิตเอทานอลของประเทศให้เพียงพอและรองรับความต้องการใช้เอทานอลจากการที่รัฐบาลจะประกาศใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 เป็นต้นไป เมื่อเร็วๆ นี้ (9 ต.ค.49) พิธีลงนามสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “แม่สอดพลังงานสะอาด” จัดขึ้นที่ชั้น 28 อาคารแปซิฟิคเพลส โดยมีผู้ร่วมลงนามประกอบด้วย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โดยนายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ, บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) โดย นายวินิจ องค์เนกนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ และบริษัท เพโทรกรีน จำกัด โดย ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดย บมจ.ผาแดง ถือหุ้นร้อยละ 35, บจ. เพโทรกรีน ถือหุ้นร้อยละ 35 และ บมจ.ไทยออยล์ ถือหุ้นร้อยละ 30 ใช้เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท มีกำลังการผลิตเอทานอล 1 แสนลิตรต่อวัน โรงงานตั้งอยู่ที่
อ.แม่สอด จ.ตาก ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี สามารถเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2552
นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ การร่วมทุนจัดตั้งบริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด
เป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอล ซึ่งใช้หัวมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบอยู่แล้ว โครงการนี้จะทำให้โครงการเอทานอลของบริษัทฯ มีการใช้วัตถุดิบที่หลากหลายขึ้น โดยจะใช้น้ำอ้อยเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลโดยตรงเป็นโรงงานแรกของประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯ มีส่วนร่วมในการบริหารโครงการและพิจารณาคัดเลือกเทคโนโลยี ตลอดจนเป็นผู้ประสานงานกับ บมจ.ปตท.ในการรับซื้อผลิตภัณฑ์เอทานอลจากโครงการนี้ ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมภาคเกษตรกรรมของประเทศ ช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้ที่แน่นอนจากการปลูกอ้อยป้อนโรงงาน ขณะที่โรงงานได้ประโยชน์จากการที่มีแหล่งวัตถุดิบที่แน่นอน เนื่องจากพื้นที่บริเวณอำเภอแม่สอด มีความเหมาะสมในการปลูกอ้อย ”
โครงการจัดตั้งโรงงานผลิตเอทานอลของไทยออยล์ ซึ่งใช้หัวมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ ขนาดกำลังการผลิต 5 แสนลิตรต่อวัน กำลังอยู่ในระหว่างการออกแบบทางวิศวกรรมเบื้องต้น เพื่อยืนยันงบประมาณลงทุนขั้นสุดท้าย ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปีครึ่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2551 และสามารถเริ่มดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในกลางปี 2551 ใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากบริษัท Vogelbusch ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นเจ้าของเทคโนโลยีการผลิตเอทานอลชั้นนำของโลก ที่ตั้งของโรงงานอยู่ระหว่างการสำรวจและจัดหาที่ดินที่เหมาะสม เชื้อเพลิงเอทานอลที่ผลิตได้จะจัดจำหน่ายภายในประเทศเป็นหลัก และส่งออกเฉพาะส่วนที่เหลือ
นายวิโรจน์กล่าวเสริมว่า “ โครงการเอทานอลทั้ง 2 โครงการดังกล่าว จะช่วยเร่งรัดให้กำลังการผลิต เอทานอลเพียงพอต่อความต้องการใช้ของประเทศ
โครงการนี้ เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถทำให้แหล่งอุปทาน เอทานอลภายในประเทศมีความมั่นคงขึ้นเป็นอย่างมาก และจะช่วยส่งเสริมให้ภาครัฐสามารถผลักดันโครงการการใช้พลังงานทดแทนแก๊สโซฮอล์ได้ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายที่จะกำหนดราคาเอทานอลสะท้อนกลไกตลาดอย่างโปร่งใส ช่วยให้รัฐมีฐานในการกำหนดราคาเอทานอลที่เหมาะสมต่อประเทศ ด้วยเทคโนโลยีของบริษัทฯ ที่สามารถเลือกวัตถุดิบที่มีต้นทุนผลิตต่ำได้ ซึ่งจะนำไปสู่การแข่งขันเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดต้นทุนในอุตสาหกรรมผลิตเอทานอลของประเทศ จะมีผลให้ต้นทุนการผลิตเอทานอลโดยรวมของประเทศลดลงได้ อีกทั้งกำลังการผลิตเอทานอลของบริษัทที่มีระดับสูง 6 แสนลิตรต่อวัน จะสร้างความต้องการใช้วัตถุดิบมันสำปะหลัง หรือน้ำอ้อย มีผลให้ราคาจำหน่ายในประเทศดีขึ้น เป็นการสร้างเสถียรภาพและเพิ่มมูลค่าให้แก่ราคาพืชเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย ”
บมจ.ไทยออยล์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 2504 เป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในปัจจุบันมีกำลังการผลิตน้ำมันปิโตรเลียม 225,000 บาร์เรล/วัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 275,000 บาร์เรล/วัน ในปลายปี 2550 เมื่อโครงการขยายกำลังการกลั่นของหน่วยกลั่นน้ำมันดิบหน่วยที่ 3 แล้วเสร็จ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประกอบธุรกิจอื่นผ่านการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ธุรกิจการผลิตพาราไซลีน และธุรกิจขนส่งน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี