กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--กรมธนารักษ์
กรมธนารักษ์ร่วมมือกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จัดสร้างศูนย์สงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสเพื่อบริการและให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ คนไร้ที่พึ่ง และผู้ประสบปัญหาสังคม โดยเฉพาะเด็กและครอบครัวเร่ร่อน โดยในปี 2552 ตั้งเป้าสนับสนุนที่ราชพัสดุเพื่อจัดตั้งหน่วยงานบริการสวัสดิการสังคมช่วยเหลือ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ มุกดาหาร ตาก สมุทรสาคร ลำพูน ขอนแก่น และมหาสารคาม
วันนี้ (30 กันยายน 2552) กรมธนารักษ์ นายวัฒนา เชาวสกู รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับรองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในโครงการสนับสนุนที่ราชพัสดุเพื่อจัดตั้งหน่วยงานบริการสวัสดิการสังคม โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกรมธนารักษ์และกรมพัฒนา สังคมและสวัสดิการ ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวัฒนา เชาวสกู รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า โครงการสนับสนุนที่ราชพัสดุเพื่อจัดตั้งหน่วยงานบริการสวัสดิการสังคม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภารกิจหลักของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการโดยการสนับสนุนที่ดินราชพัสดุให้กับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในการดำเนินงานด้านบริการสวัสดิการสังคม การสังคมสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ คนไร้ที่พึ่ง ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ให้มีศูนย์บริการที่มีความสะดวก และสามารถช่วยเหลือให้มีที่พักชั่วคราวสำหรับคนเร่ร่อน จรจัด คนขอทาน ผู้ประสบภัย ต่าง ๆ เช่น อุทกภัย อัคคีภัย วาตภัย โดยเฉพาะเด็กและครอบครัวในชนบท ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายวัฒนา กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้ขอให้กรมธนารักษ์พิจารณาจัดสรรที่ดินราชพัสดุเพื่อรองรับการก่อสร้าง โครงการบ้านพักเด็กและครอบครัว โครงการต้นแบบศูนย์คนไร้บ้าน ในจังหวัดที่ยังไม่มีสถานที่ก่อสร้าง ดังนั้น กรมธนารักษ์จึงได้ตรวจสอบที่ดินราชพัสดุที่มีความเหมาะสม
ในเบื้องต้น ในเขตอำเภอเมืองหรือนอกเขตเมืองที่มีสาธารณูปโภคครบ และอยู่ไม่ห่างจากแหล่งชุมชน ปรากฏในเบื้องต้นสามารถนำมารองรับโครงการดังกล่าวได้ 20 แปลง ใน 17 จังหวัด โดยมีขั้นตอนการดำเนินการสนับสนุนที่ราชพัสดุเพื่อจัดตั้งหน่วยงานบริการสวัสดิการสังคมคือ พิจารณาความเหมาะสมของที่ราชพัสดุ ตรวจสภาพที่ดินราชพัสดุ จัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) และดำเนินการขอใช้ที่ดินราชพัสดุ
สำหรับโครงการดังกล่าวได้กำหนดเป้าหมายใน ปี 2552 ดำเนินการใน 6 จังหวัด เพื่อใช้ที่ดินในการก่อสร้างศูนย์พัฒนาสังคม และที่ทำการบ้านพักเด็กและครอบครัว ได้แก่ 1. จังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ 2. จังหวัดตาก เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 3. จังหวัดสมุทรสาคร เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 4. จังหวัดลำพูน เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ 5. จังหวัดมหาสารคาม เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ 6. จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่