กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) ที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘C/D’ และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘4’ ในขณะเดียวกันฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) ที่ ‘A-(tha)’ (A ลบ (tha)) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F2(tha)’ และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘5’
อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงประโยชน์จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TBANK ของ Bank of Nova Scotia (Scotia ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลที่ ‘(AA-’ (AA ลบ) / ‘F1+’) โดยที่การเข้ามาควบคุมและการให้การสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นของ Scotia น่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินและผลการดำเนินงานของ TBANK ในระยะปานกลาง Scotia ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TBANK เป็น 49% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 จาก 25% ขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของ TCAP ใน TBANK ได้ลดลงเหลือ 50.9% จาก 74.9% อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของแหล่งเงินทุน คุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง และการกระจุกตัวของสินเชื่อในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของธนาคาร
แม้ว่าจะมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น TBANK รายงานผลกำไรสุทธิที่ 1.0 พันล้านบาทในครึ่งแรกของปี 2552 ลดลง 37% จากปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นจากการขยายสาขา อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% ในครึ่งแรกของปี 2552 จาก 3.5% ในปี 2551 เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง และคาดว่าน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกันในครึ่งหลังของปี 2552 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยได้ลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำสุดแล้ว แต่ NIM อาจจะอ่อนตัวลงใน ปี2553 เมื่อมีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 9.7 พันล้านบาท (3.5% ของสินเชื่อรวม) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 จาก 7.9 พันล้านบาท (2.9% ของสินเชื่อรวม) ณ สิ้นปี 2551 และจาก 5.2 พันล้านบาท หรือ 2.3% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2550 แม้ว่าอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง (92.8% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552) แต่การปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจอาจทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นอีกในครึ่งปีหลังของปี 2552 และ ปี 2553
อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนรวมของ TBANK ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 8.9% และ 12.9% ตามลำดับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 (2551: 8% และ 11.2%) เนื่องจากการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2 พันล้านบาทในเดือนพฤษภาคม 2552 TBANK มีแผนที่จะเข้าซื้อธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) ซึ่งหากประสบความสำเร็จ คาดว่าจะมีผลกระทบกับเงินกองทุนชั้นที่ 1 เพียงเล็กน้อยเนื่องจากเงินทุนที่ใช้ในการซื้อ SCIB ส่วนใหญ่น่าจะได้รับการสนับสนุนโดยการเพิ่มทุนจาก TCAP และ Scotia
ปัจจุบัน TBANK เป็นบริษัทหลักในการดำเนินงานของกลุ่มธนชาต โดยประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจที่เกี่ยวกับการให้บริการทางการเงินอื่นทั้งในด้านธุรกิจหลักทรัพย์ การจัดการกองทุน และการประกันภัย ในขณะที่ Scotia เป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศแคนาดา โดยมีสินทรัพย์กว่า 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และมีธุรกิจหลักด้านการธนาคารในประเทศแคนาดาและต่างประเทศ รวมทั้งธุรกิจด้านตลาดทุนและวาณิชธนกิจทั่วโลก
อันดับเครดิตของ TCAP สะท้อนถึงหนี้สินของบริษัทที่ยังอยู่ในระดับปานกลางซึ่งสามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของหนี้สินในอนาคตได้หากต้องใช้เงินทุนในการเข้าซื้อกิจการ การที่พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของ TCAP มีการลดลงอย่างต่อเนื่องจะทำให้บริษัทต้องพึ่งพาผลการดำเนินงานและรายได้จากการจ่ายเงินปันผลของ TBANK มากขึ้น
ติดต่อ
นฤมล ชาญชนะวิวัฒน์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4763/4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน