กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ปี2550พระเอกมาดเข็มอย่างพระเต๋า สมชาย เข็มกลัดกำลังจะมีงานหนังใหญ่ฟอร์มยักษ์จากค่ายสหมงคลฟิล์มออกมาให้แฟนๆหายความคิดถึงกันถึง 2 เรื่องด้วยกันคือ “โอปปาติกะ” และ “นาคปรก” ซึ่งล้วนแล้วเป็นบทบาทที่กล้ารับประกันว่าได้ว่านี่คือการใช้พลังความสามารถทางการแสดงและพลังดาราระดับแม่เหล็กของนักแสดงหนุ่มบ้าพลังอย่างพระเต๋า สมชายได้อย่างถึงขีดสุด เพราะนับจาก “โลกทั้งใบให้นายคนเดียว” เมื่อ10ปีที่แล้วตามด้วย “ล่องจุ๊น” , “มือปืนโลกพระจัน” และหลังสุดกับ “สายล่อฟ้า” นับจากจำนวนภาพยนตร์พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่านักแสดงหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าบ้าพลังและทุ่มเทความสามารถทางการแสดงชนิดสุดตัวอย่างเต๋า ในทุกบทบาทที่เล่นต้องผ่านการเลือกเฟ้นและเลือกบทมาอย่างดีถึงจะยอมตัดสินใจเล่น โดยที่“โอปปาติกะ”หนุ่มเต๋าต้องประกบบทบาทกับนักแสดงหนุ่มร่วมรุ่นฝีมือดีอย่างชาคริต แย้มนาม,เร แม็คโดนัลด์,ลีโอ พุฒ,บอล อธิป นานา ไปจนถึงรุ่นพี่อย่างพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจงและนิรุตติ์ ศิริจรรยา และนักแสดงสาวฝีมือดีอย่างเชอร์รี่ เข็มอัปสร นั้นหนุ่มเต๋ายังต้องโชว์การแสดงทั้งในส่วนของดราม่าเข้มข้นไปจนถึงแอ็คชั่นดุดันกับนักแสดงที่ร่วมงานด้วยกัน จนมีข่าวไปเมื่อปีกลายที่มีการผิดคิวจนหนุ่มเต๋าเองต้องได้แผลเย็บอยู่หลายเข็มเลยทีเดียว ซึ่งหนุ่มเต๋ารับบทเป็น1 ในโอปปาติกะผู้มีพลังพิเศษและมีชีวิตเป็นอมตะผ่านพ้นทั้งความสุข ความเศร้า และความทุกข์มาตลอดชีวิต ส่วน “นาคปรก” ก็เป็นอีกบทบาทเข้มๆที่ เต๋า สมชาย ต้องเชือดเฉือนบทบาทและฝีมือทางการแสดงอย่างถึงพริกถึงขิง ร่วมกับ เร แม็คโดนัลด์,เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ โดยทั้ง3 คนยอมโกนหัวขึ้นจอเงินพร้อมกันเป็นครั้งแรก ร่วมด้วยนักแสดงสาวอย่างทราย เจริญปุระ และนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ และรัชนู บุญชูดวง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและขุดคุ้ยด้านมืดของมนุษย์ได้อย่างชวนขนลุกที่สุด โดยเต๋ารับบทเป็นโจรที่ไม่ได้ชั่วโดยกำเนิดแต่ต้องเผชิญหน้ากับความดีเลวในตนเองว่าแท้จริงแล้วธรรมจะสามารถขัดเกลาให้คนชั่วกลายเป็นคนดีได้จริงหรือไม่? จิตศรัทธาที่แน่วแน่สามารถชนะทุกสิ่งแม้แต่ความเกลียดชัง กิเลส ความโลภและความเห็นแก่ตัว ความดีคือสิ่งเดียวในโลกที่ไม่มีวันดับสูญ แต่ถ้าจิตใจของคนผู้นั่นหมดสิ้นซึ่งจิตแห่งศรัทธาแล้ว ชีวิตจะเป็นอย่างไร
งานนี้รับประกันความเข้มข้นแบบยกกำลังสองกับ 2 บทบาทที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงของหนุ่มเต๋า สมชาย เข็มกลัดที่คืนจอเงินอย่างเต็มตัวกับงานภาพยนตร์ที่เจ้าตัวรักและทุ่มเทฝีไม้ลายมือทางการแสดงสุดตัว และรับรองว่าระดับดีกรีความเข้มข้น ดุดันจาก “โอปปาติกะ” และ “นาคปรก” ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันอย่างแน่นอน และหลังจากทั้งสองเรื่องแล้ว หนุ่มเต๋าคงเบรกตัวเองกับงานหนังไปอีกพักใหญ่ แต่ปี 2550 เจอกันแน่กับสมชาย เข็มกลัด
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net