กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และสถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน จัดทำหลักสูตรเฉพาะสำหรับคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อยกระดับความรู้ของคณะกรรมการฯ ในเรื่องบทบาทหน้าที่ กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และการลงทุน ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้มีความมั่นคง เพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิก ในการนี้ ได้เตรียมจัดอบรมทุกเดือน เริ่มปี 2549 คาดกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขนาดใหญ่และของรัฐวิสาหกิจจะเข้ารับการอบรมทุกคน
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 ก.ล.ต. ได้จัดงานสัมมนา เรื่อง “ มิติใหม่ของคณะกรรมการกองทุนสำรอง
เลี้ยงชีพ ” ณ โรงแรม JW Marriott กรุงเทพฯ แนะนำ “ หลักสูตรความรู้มาตรฐานสำหรับคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (FC Fundamental Course) ” แก่กรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขนาดใหญ่
ผู้จัดการกองทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 60 คน
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. ได้กล่าวเปิดงาน และกล่าวถึงภารกิจสำคัญของ
คณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในมิติใหม่ ว่า “เนื่องจากการออมและการลงทุนเพื่อให้ได้
ผลตอบแทนเป็นสิ่งควบคู่กัน ในขณะที่ระบบการเงินของประเทศก็พึ่งพิงเงินออมของประชาชนอยู่มาก คณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในฐานะผู้ดูแลเงินออมเพื่อการเกษียนอายุของสมาชิก จึงควรที่จะบริหารกองทุนในเชิงรุกมากขึ้น ทั้งในเรื่อง ความเสี่ยง และ การวัดผลงาน
สำหรับหลักสูตรมาตรฐานฯ ที่ได้เปิดตัวในวันนี้ จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่กรรมการเป็นไปอย่างเหมาะสมและราบรื่น ภายใต้มาตรฐานขั้นต่ำที่เข้าใจตรงกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการ
ดูแลเงินออมของสมาชิก และต่อระบบการออมของประเทศต่อไป ”
การอบรมหลักสูตร FC Fundamental Course ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับ ความรู้เบื้องต้นและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หลักการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามมาตรฐานสากล ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน และ การติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยจะเริ่มจัดอบรมรุ่นแรกในเดือนมกราคม 2549 รับรุ่นละไม่เกิน 100 คน ซึ่งสถาบันฝึกอบรมทั้งสามแห่งเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราเดียวกันคือคนละ 2,000 บาท
ผู้สนใจรายละเอียดการอบรมหลักสูตรดังกล่าว สามารถเรียกดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ www.thaipvd.com หรือติดต่อที่ สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โทร. 0-2294-7430-2 สมาคมบริษัทจัดการลงทุน
โทร. 0-2264-0900-3 และ สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน โทร. 0-2229-2222--จบ--