กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--สสส.
การหุงต้มอาหารตามวิถีชีวิตชนบทของไทยส่วนใหญ่ ยังนิยมใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง แม้ทุกวันนี้จะมีเตาแก๊สทันสมัยและแสนสะดวกเพียงใดก็ตาม เพราะถ่านเชื้อเพลิงอยู่คู่กับสังคมชนบทมานาน ครั้นจะเปลี่ยนไปใช้เตาแก๊ส ต้องเสียเงินค่าเตาค่าถังแก๊สยุ่งยาก เป็นรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทที่ทุรกันดารแล้ว ยากจะหาแก๊สมาใช้ได้ง่ายเหมือนสังคมเมือง
แต่ใครเลยจะรู้ว่า ถ่านที่ใช้กันอยู่นั้น เป็นต้นเหตุหนึ่งของการเกิด “โรคมะเร็ง” ขึ้นได้ เพราะเป็นถ่านที่ได้จากการเผาแบบโบราณ นั่นคือ เผาด้วยเตาหลุม เตาอบ หรือ เตาแกลบ ซึ่งใช้ไม้เป็นจำนวนมาก และใช้ความร้อนเผาเนื้อไม้โดยตรง ทำให้ได้ถ่านปริมาณน้อย มีขี้เถ้ามาก และถ่านที่ได้จะมีน้ำมันดินปะปนอยู่ เมื่อนำไปหุงต้มอาหาร จะมีควันมาก และอาจตกค้างหรือปนเปื้อนไปในอาหารได้ อันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
ด้วยความห่วงใยเรื่องของสุขภาพ ชาวบ้านหอก หมู่ 4 ตำบลศรีสุข อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 60 คน 60 ครอบครัว จึงหันมามาใช้ถ่านที่เผาด้วยตัวเอง ผ่านกระบวนการรูปแบบใหม่ด้วยถัง 200 ลิตร
จากโครงการวิจัย ที่สนับสนุนโดยสำนักเปิดรับทั่วไป สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ การเผาถ่านด้วยถัง 200 ลิตร เป็นเตาเผาถ่านที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเตาเผาถ่านแบบดั้งเดิม หรือที่เรียกกันว่า เตาผี โดยใช้ถังเป็นตัวเตา ซึ่งจะใช้ความร้อนในการไล่ความชื้นที่อยู่ในเนื้อไม้ ทำให้กลายเป็นถ่าน หรือที่เรียกกันว่า " กระบวนคาร์บอนไนเซซั่น( Carbonization)" แทนการจุดไฟจากเนื้อไม้โดยตรง
ผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้ได้ปริมาณถ่านมากหรือเท่ากับไม้ที่ใส่ไปในตอนแรก และใช้เวลาในการเผาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อนำไปหุงต้มอาหาร จะมีควันน้อยหรือมีเพียงเจือจาง ทำให้มีสารก่อมะเร็งต่ำ ขี้เถ้าน้อย แตกต่างจากเตาเผาดั้งเดิมที่ต้องใช้ปริมาณไม้เป็นจำนวนมา เมื่อเผาเสร็จแล้วจะได้ถ่ายน้อย และยังต้องใช้เวลาถึง 5-6 วันกว่าจะได้ถ่านมาใช้ อีกทั้งควันไฟจากถ่านมีมากและสีดำเข้มอันตราย
นายพุทธา พาสมบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านหอก ต.ศรีสุข อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ เล่าว่า หลังจากที่ตนได้ไปอบรมเรื่องการเผาถ่านด้วยถัง 200 ลิตร มาแล้ว เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ประกอบกับได้สนับสนุนเรื่องของความพอเพียง การพึ่งพาตนเอง เมื่อกลับมาจึงได้มาบอกกล่าวกับลูกบ้าน แนะนำให้ทำเตาเผาถ่าน 200 ลิตร ใช้ในแต่ละครัวเรือน ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดี
“การทำเตาเผาถ่านถัง 200 ลิตร ใช้ต้นทุนในการทำเพียง 400-500 บาทเท่านั้น ซึ่งเราจะมีเงินสนับสนุนให้แก่ลูกบ้านที่สนใจทำเป็นจำนวนเงิน 100 บาท แม้จะไม่มากแต่ก็ช่วยดึงความสนใจให้ลูกบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่หมู่บ้านมีทั้งหมด 187 หลังคาเรือน มีครัวเรือนที่หันมาใช้เตาเผาถ่านถัง 200 ลิตร จำนวน 60 ครัวเรือน โดยจะมีการขยายหรือชักชวนให้ครัวเรือนที่เหลือหันมาใช้เตาเผาถ่านถัง 200 ลิตรกันให้มากที่สุด หรือรณรงค์ให้ใช้ถ่านที่ได้จากการเผาด้วยถัง 200 ลิตร มาหุงต้มอาหารให้มากที่สุด ซึ่งพอจะมีคนเผาถ่านมาขายอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่จะเผาถ่านเพื่อเก็บไว้ใช้เองในบ้านมากกว่า”
ในช่วงกระแสการตื่นตัวเรื่องลดโลกร้อนนี้ การเผาถ่านเป็นการใช้ต้นไม้มาเป็นวัตถุดิบ จะส่งผลกระทบต่อเรื่องนี้อย่างไร ผู้ใหญ่ฯพุทธา อธิบายว่าเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เพราะเราเลิกตัดต้นไม้แล้ว เราใช้เศษไม้กิ่งไม้ที่ได้จากหัวไร่ปลายนามาเผาเป็นถ่าน หรือจะไปซื้อเศษไม้ยูคาลิปตัสที่โรงงานคัดทิ้งเอามาใช้ด้วยก็ได้ เพราะการเผาแบบใหม่นี้ จะได้ถ่านในปริมาณมาก ไม่ต้องตัดต้นไม้ใหญ่เหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ถ่านที่ได้มีควันน้อย ช่วยลดมลภาวะที่รบกวนชุมชนได้ดี
“หมู่บ้านข้างเคียงอยากทำเตาเผาถ่านถัง 200 ลิตร ใช้กันในครัวเรือน เราก็ให้คำปรึกษา ทำให้เราได้เป็นแบบอย่าง ให้หมู่บ้านข้างเคียงหันมาสนใจกันมากขึ้น” ผู้ใหญ่ฯ พุทธา กล่าว
นอกจากนี้ ผลพลอยได้ของเตา 200 ลิตร คือ “น้ำส้มควันไม้ (Wood Vinegar)” ซึ่งมาจากกระบวนการเผาถ่าน โดยน้ำส้มควันไม้เกิดขึ้นจากขั้นตอนการใช้ความร้อนเพื่อไล่ความชื้นในเนื้อไม้ ซึ่งความชื้นนี้เองได้กลั่นตัวเป็นไอน้ำและกลายเป็นหยดน้ำ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำส้มควันไม้จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเนื้อไม้ที่ใส่ลงในเตาเผาตอนแรก ว่าไม้มีความสดมากน้อยเพียงใด หากเนื้อไม้มีความสดมากก็จะได้น้ำส้มควันไม้ปริมาณมาก หากเนื้อไม้มีความสดน้อยก็จะได้น้ำส้มควันไม้ปริมาณน้อย
สำหรับสรรพคุณของน้ำส้มควันไม้เป็นที่ทราบกันดีในปัจจุบันว่า มีมากมายหลายประการ เรียกได้ว่า สารพัดประโยชน์ เช่น ใช้เป็นสารปรับปรุงดิน เป็นสารป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช ใช้รักษาโรคพืชบางชนิด ใช้เพื่อเร่งการงอกและการเจริญเติบโตของพืช ฆ่าเชื้อโรคและฆ่าเชื้อรา หรือจะฉีดพ่นคอกสัตว์ ลดกลิ่นอับในคอกได้เช่นกัน โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีมาบั่นทอนชีวิตหรือเงินในกระเป๋า
นอกจากนี้แล้ว น้ำส้มควันไม้ ยังใช้รักษาแผลสด แผลถูกน้ำร้อน รักษาโรคน้ำกัดเท้าและเชื้อราที่ผิวหนัง มีความเหนียวติดไฟง่ายและมีกลิ่นฉุนมาก สามารถนำไปเทลงในหลุมเสาบ้าน ทาผิวไม้ก่อนสร้างบ้าน ป้องกันแมลงจำพวกปลวก มอด ทำลายเนื้อไม้ได้ หรือผสมผงถ่านกับน้ำมันดิน สามารถนำไปโรยรอบอาคารเพื่อป้องกันสัตว์ต่างๆ เช่น มด ปลวก ตะขาบ ฯลฯ ไม่ให้เข้ามาในบ้านได้เป็นอย่างดี
ใครเลยจะเชื่อว่า แค่เตาเผาถ่านถัง 200 ลิตร จะมีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยลดมลภาวะจากฝุ่นควัน ได้สุขภาพที่ดีขึ้น และช่วยประหยัดรายจ่ายในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี.