กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--มาสเตอร์ไมนด์
กระเบื้องหลังคาตราเพชร จับมืออิตาเลียนไทย ขยายตลาดโครงการ การันตีคุณภาพสินค้าได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เน้นการทำตลาดแบบเกื้อกูล
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาตราเพชร
อดามัส และเจียระไน เปิดเผยว่า ในวันนี้ (19 ตุลาคม 2549) บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในการก่อสร้างโครงการบ้าน
เอื้ออาทร Turnkey ? ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยบริษัทฯ เป็นตัวแทนจัดส่งสินค้ากระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์หรือกระเบื้องลอนคู่สี รวมถึงไม้ฝาและกระเบื้องคอนกรีต คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 130 ล้านบาท
“การที่บริษัทฯ ได้มีส่วนในการผลักดันสินค้าสำหรับโครงการดังกล่าวนี้ นับเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์ และยังเป็นการยืนยันกับผู้บริโภคว่า สินค้าของเรามีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี โดยผลิตภัณฑ์หลักที่บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจ คือ กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์หรือกระเบื้องลอนคู่สี นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์ และกระเบื้องคอนกรีตบางส่วน ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการใหญ่ และมีความต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังผ่านการทดสอบคุณภาพต่างๆ มากมาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ของ DRT” นายสาธิต กล่าว
ทั้งนี้ สินค้าของบริษัทผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย ควบคุมด้วยบุคลากรซึ่งเป็นวิศวกรและช่างเทคนิคที่มีความรู้ความชำนาญ มีขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 และการรับรองระบบมาตรฐานความปลอดภัยและอาชีวะอนามัย OHSAS 18001:1999 จาก SGS ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนานาชาติ รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมด้วย
รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT ยังได้กล่าวถึงทิศทางของธุรกิจของDRT เชื่อว่า ธุรกิจจะยังคงเดินหน้าในส่วนของงานภาคโครงการ โดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่รัฐบาลก่อนหน้านี้วางแนวทางไว้ รวมทั้งงานของภาคเอกชนที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของอาคารสูง หรือโครงการบ้านจัดสรร เนื่องจากในปัจจุบันเรามีกลุ่มสินค้าที่เป็นผนังสำเร็จรูป ”เจียระไน บอร์ด “ สามารถทดแทนในส่วนของงานผนัง เพราะมีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้สะดวก และประหยัดโครงสร้าง ซึ่งบริษัทฯ มองว่าเป็นโอกาสที่จะสามารถผลักดันเข้าสู่ตลาดได้ นอกจากนี้กลุ่มหลังคาที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ เรายังมีกระเบื้องหลังคา“เจียระไน” ที่ตอบโจทย์ความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน และมีความสวยงาม รวมทั้งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดได้ผ่านการทดสอบด้านคุณภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคในการใช้สินค้า รวมทั้งงานบริการหลังการขายที่เราได้ให้ความสำคัญมาตลอด และถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักที่เราจะก้าวต่อไปในอนาคต
สำหรับภาพรวมยอดขายที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งการที่เราได้มีโอกาสมาร่วมงานกับทาง บมจ.อิตาเลียนไทย คาดว่า น่าจะมาจาก “ตราสินค้า” หรือ แบรนด์มากกว่า เนื่องจากแบรนด์ของบริษัทฯ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่ยอมรับ ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ในส่วนของ.การส่งออกยังคงเติบโตได้ดี รวมทั้งเรายังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับผู้แทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ เน้นการทำธุรกิจแบบเกื้อกูล ซึ่งจุดนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สามารถรักษาระดับยอดขายในตลาดต่างประเทศไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
ทางด้านแนวโน้มทิศทางของธุรกิจวัสดุก่อสร้างในปี 2550 นั้น นายสาธิตกล่าวว่า ในแง่ของบริษัทฯ เรามุ่งเน้นเรื่องการปรับลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ โดยได้ให้ความสำคัญในการบริหารต้นทุนต่างๆ เช่น การเปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติ (NG) เป็นเชื้อเพลิงในการผลิต ทดแทนเชื้อเพลิงอื่นอย่างน้ำมัน เพราะต้องการควบคุมต้นทุน และไม่ต้องการผลักภาระไปยังผู้บริโภค
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: คุณวารุณี คำไชย (แนน) โทร: 0-2643-1191-2 หรือ 0-1496-6762