กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--บิวท์ ทู บิวด์
กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ เดินหน้ารุกตลาดรับสร้างบ้านโซนตะวันออก มั่นใจเป็นตลาด ที่มีศักยภาพ เหตุเพราะลูกค้าเมืองชล และจังหวัดใกล้เคียงให้ความสนใจหันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น ชูจุดเด่นการดำเนินงานแบบมืออาชีพ และตั้งเป้าว่าภายใน ปีแรกจะโกยยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ ผู้นำในธุรกิจรับสร้างบ้านคุณภาพ กล่าวว่า จากการสำรวจความต้องการปลูกสร้างบ้านของผู้บริโภคในพื้นที่ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง พบว่า ตลาดรับสร้างบ้านในโซนตะวันออก นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพเนื่องจาก ยังมีกลุ่มลูกค้าจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินทั้งในและนอกโครงการจัดสรร เริ่มหันมาสนใจ ใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทรับสร้างบ้านมีจุดเด่นคือ มีทีมงานก่อสร้างและทีมงานบริหารที่มีความเชี่ยวชาญ มีการรับประกันโครงสร้างและตัวบ้าน ขณะเดียวกัน มีแบบบ้านมาตรฐานให้เลือกสรรอย่างหลากหลาย พร้อมทั้ง ยังมีการให้บริการดีไซน์ออกแบบบ้านในหลากหลายสไตล์ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ตรงตามความต้องการ และงบประมาณที่มีอยู่ รวมถึงงานบริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งนับเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้รับเหมารายย่อยโดยทั่วไป
ทั้งนี้ กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ จึงได้ดำเนินการเปิดสาขาชลบุรีขึ้นเป็นสาขาล่าสุด ที่อำเภอบางแสน จังหวัดชลบุรี เมื่อเดือนกันยายน 2552 ซึ่งสาขาดังกล่าวตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท กม.104 บริเวณ สามแยกบางแสน ซึ่งนับตั้งแต่ได้ทำการเปิดสาขาชลบุรีที่ผ่านมาถือว่าได้ผลการตอบรับ เป็นที่น่าพอใจ โดยมีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และในขณะนี้อยู่ระหว่าง การปรับดีไซน์ รวมทั้ง การประมาณราคาเสนอลูกค้า โดยตั้งเป้าผลประกอบการว่าจะสามารถ ทำยอดขายในปีแรกได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท หรือประมาณ 20 หลังต่อปี
“บิวท์ ทู บิวด์ มีระบบโครงสร้างสำเร็จรูป SCS ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยคุณกอบชัย ซอโสตถิกุล ผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านในประเทศไทย มีจุดเด่นที่ความมั่นคง แข็งแรง มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพราะผ่านการตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอนของการผลิตจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปของกลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ ณ ซอยอ่อนนุช 46 โดยให้ความมั่นใจด้วยการรับประกันโครงสร้างนานถึง 10 ปี และที่สำคัญยังสามารถก่อสร้างบ้านได้อย่างรวดเร็วในทุกฤดูกาล หากเปรียบเทียบกับการก่อสร้างโครงสร้างด้วยระบบหล่อในที่ ระบบโครงสร้างสำเร็จรูปจะสามารถก่อสร้าง ได้รวดเร็วกว่าประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และลดภาวะมลพิษระหว่างการก่อสร้างทั้งในพื้นที่บริเวณก่อสร้างและบริเวณใกล้เคียง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีการควบคุมคุณภาพบ้านระหว่างการก่อสร้างบ้านพักอาศัย ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของ กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ โดยได้จัดระบบการดูแลและตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้างอย่างใกล้ชิดและมีขั้นตอนกว่า 400 รายการ ด้วยระบบ Triple Check เริ่มตั้งแต่วิศวกรควบคุมหน้างาน วิศวกรอาวุโสที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจนถึงผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมกันตรวจสอบ เพื่อให้บ้านทุกหลังมีคุณภาพมาตรฐานที่ดีทัดเทียมกัน” นายสุธี กล่าว
ปัจจุบัน บิวท์ ทู บิวด์ มีสาขาที่ให้บริการลูกค้าทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้ง สาขาชลบุรี ที่เปิดใหม่ จำนวน 4 สาขา ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 3 , สาขาบางนา-ตราด กม.4, สาขากาญจนาภิเษก และสาขาชลบุรี ในรูปแบบการให้บริการแบบ One Stop Service ภายใต้มาตรฐานการดำเนินงานแบบมืออาชีพ โดยมีเจ้าหน้าที่สถาปนิก และเจ้าหน้าที่บริหารงานขายประจำสาขา คอยดูแลและเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าตลอดระยะเวลาการปลูกสร้างบ้าน
สำหรับผลประกอบการในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กันยายน 2552) กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ สามารถทำยอดขายรวมกันได้แล้วประมาณ 505 ล้านบาท แบ่งเป็น บิวท์ ทู บิวด์ 255 ล้านบาท และ บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์ 250 ล้านบาท จากยอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งไว้ 700 ล้านบาท และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้ จะสามารถทำยอดขายได้ตามที่คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ชลาลัย ถิระโชติ (วุ้นเส้น)
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์
โทร. 02 681 2020 ต่อ 213