กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--ไทยออยล์
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2552 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารสำนักงานโรงกลั่น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ศาสตราจารย์นายแพทย์ ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวว่า “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในผลงานความก้าวหน้าของโครงการความร่วมมือระหว่างบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถผลักดันโครงการเริ่มต้น 3 โครงการให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และหวังว่าผลงานในช่วงต่อไปจะประสบผลสำเร็จดังเช่นผลงานที่ผ่านมา และสามารถนำมาใช้งานได้จริงอย่างต่อเนื่อง สมกับชื่อของงาน “มิติใหม่ของความร่วมมือ - จากหิ้งสู่ห้างอย่างยั่งยืน”
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ เป็นแหล่งความรู้ และแหล่งอ้างอิงของแผ่นดิน เพื่อเสริมสร้างคนและสังคมไทยให้พึ่งพาตนเองได้ แข่งขันได้ และร่วมมืออย่างทัดเทียม และยั่งยืนในประชาคมโลก วิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยในทศวรรษนี้คือ ความเป็นเลิศในด้านงานวิจัย โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยซึ่งเน้นงานวิจัยที่ก้าวหน้าและเป็นประโยชน์ที่จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ
วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เป็นหน่วยงานหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปและได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งในด้านการวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ในขณะที่บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการผลิตที่สูงที่สุดในประเทศ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและกระบวนการกลั่นน้ำมันที่ซับซ้อน จึงถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ในกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคเอเชีย
ดังนั้น เมื่อ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ได้จับมือร่วมกันในการทำงานภายใต้แนวความคิด “มิติใหม่ของความร่วมมือ - จากหิ้งสู่ห้างอย่างยั่งยืน” ดังเช่นที่ ดร. วิโรจน์ มาวิจักขณ์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เปรียบเสมือนฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท ไทยออยล์ ในขณะเดียวกัน บริษัท ไทยออยล์ ก็เปรียบเสมือนโรงงานต้นแบบส่วนหนึ่งของวิทยาลัยฯ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการร่วมมือกันระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม และจะเป็นแบบอย่างความร่วมมืออย่างยั่งยืนในอนาคต
ในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ทางวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมีและบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดงาน “The 1st TOP-PPC Symposium The New Frontier of Industrial-Academic Research Collaboration/มิติใหม่ของความร่วมมือ - จากหิ้งสู่ห้างอย่างยั่งยืน” เพื่อเสนอผลงานความก้าวหน้าในรอบปีที่ผ่านมา ตลอดถึงผลงานวิจัยร่วมที่กำลังดำเนินการอยู่โดยนับได้ว่า งานนี้เป็นการบ่งบอกถึงก้าวแรกของความสำเร็จถึงความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงานที่จะช่วยในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการบรรยายเรื่อง “The Trend of Sustainable Industrial-Academic Research Collaboration in Petroleum and Petrochemical Industry” โดย Prof. Lance Lobban จาก School of Chemical, Biological, and Materials Engineering, University of Oklahoma ประเทศสหรัฐอเมริกา และการเสวนาเรื่อง “Overview of TOP-PPC Industrial-Academic Collaboration for Commercial Research and Future Outlook” จากผู้บริหารระดับสูงทั้งสองหน่วยงาน และการแสดงผลงานวิจัยที่เป็นต้นแบบของการพัฒนาสู่อุตสาหกรรมต่อไป“
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 022184154