บลจ. กสิกรไทย นำกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ เข้าจดทะเบียนซื้อ/ขายในตลาดตราสารหนี้ ในรูปแบบกองทุนรวมอีทีเอฟครั้งแรกในไทย

ข่าวทั่วไป Friday April 28, 2006 13:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) จดทะเบียนเพื่อซื้อขายกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (The ABF Thailand Bond Index Fund หรือ ABFTH) ในตลาดตราสารหนี้ไทย (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) แล้ว โดยมี ดร.บัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ และ นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย ร่วมในงานแถลงข่าวการจดทะเบียนกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) ในตลาดตราสารหนี้ BEX ในวันที่ 27 เมษายน 2549
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย ผู้จัดการกองทุน ABFTH เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุน ABFTH ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของรูปแบบกองทุนรวมอีทีเอฟ โดยการเข้าจดทะเบียนซื้อขายหน่วยลงทุนผ่าน BEX แล้ว โดยมีขนาดกองทุนที่ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดตราสารหนี้เท่ากับ 5,575.547 ล้านบาท กองทุน ABFTH นี้มีจุดเด่นทางด้านค่าการจัดการต่ำ สามารถซื้อขายได้หลายช่องทาง ราคาโปร่งใส มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นการบริหารในเชิงรับ (passive management) โดยอ้างอิงกับดัชนี
นางวิวรรณกล่าวอีกว่า “ตามที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับความไว้วางใจจากธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิคอื่นๆ รวม 11 ธนาคารในกลุ่ม EMEAP (Executives’ Meeting of East Asia and Pacific Central Banks) ให้เป็นผู้จัดการกองทุน ABFTH ซึ่งเป็นกองทุนหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการกองทุนพันธบัตรเอเชียระยะที่ 2 หรือ Asian Bond Fund 2 — ABF2 โดยเป็นกองทุนเปิดที่ลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐเป็นครั้งแรก การบริหารกองทุนดัชนีประเภทนี้ต้องอาศัยความชำนาญในตลาดตราสารหนี้ มีระบบการลงทุน และระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี และใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการบริหาร และจัดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้ผลตอบแทนกองทุนเบี่ยงเบนไปจากดัชนีอ้างอิงให้น้อยที่สุด
“ปัจจุบันนักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ ทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน สำหรับกองทุนรวม ABFTH เชื่อว่าจะเรียกความสนใจจากนักลงทุน
สถาบันและรายย่อยได้อย่างมาก เนื่องจากเป็นกองทุนที่สามารถซื้อขายได้หลายช่องทาง และสามารถซื้อขายโดยใช้หลักทรัพย์แทนเงินสดได้ (In-kind Mechanism) นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถตัดสินใจซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดรองได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถทราบราคายุติธรรมของหน่วยลงทุนได้รวดเร็วโดยคำนวณจากราคาหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของหน่วยลงทุน และสามารถกำหนดราคาซื้อขายได้ทันที โดยไม่ต้องรอการคำนวณมูลค่าหน่วยลงทุน หรือ NAV ณ สิ้นวัน” นางวิวรรณกล่าว
ก่อนหน้านี้ บลจ. กสิกรไทย ได้แต่งตั้งผู้ทำหน้าที่ด้านต่างๆ เกี่ยวกับกองทุน ABFTH ดังนี้ ผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดรอง (Market Makers) ได้แก่ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารดอยซ์แบงก์ สาขากรุงเทพฯ ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน (Authorized Participant) ได้แก่ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุน (Underwriters) บมจ. ธนาคารกสิกรไทย และ บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้ดูแลผลประโยชน์ (Fund Supervisor) ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด นายทะเบียน (Registrar) ได้แก่ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
เกี่ยวกับ บลจ.กสิกรไทย
บลจ.กสิกรไทยได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทในกลุ่ม KGroup ของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดย ณ วันที่ 21 เมษายน 2549 บริษัทฯ มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 214,437.25 ล้านบาท (ที่มา สมาคมบริษัทจัดการลงทุน)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
นฤพร ชีวนันทพรชัย / วสันต์ พูลศิริวิทย์ บ.นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
โทร (02) 631-2290-5 ต่อ 310 / 309 แฟกซ์ (02) 234-6192-3
E-Mail : narueporn@neotarget.com , / wasan@neotarget.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ