กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) และ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด สิ้นปี 48 รวมกันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งกว่า 3,981 ล้านบาท ส่งแคมเปญ “หยอดบุญ หย่อนภาษี” ใน 2 เดือนสุดท้ายมัดใจนักลงทุนให้อิ่มบุญถ้วนหน้า โดยร่วมบริจาคเงิน 50% จากรายได้ค่าธรรมเนียมการจัดการของ บลจ.กสิกรไทย เข้าบำรุงสภากาชาดไทย
นางดัยนา บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพิ่มขึ้นทั้งปีสูงเป็นอันดับหนึ่ง กว่า 3,981 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา โดยบริษัทได้จัดโครงการ “หยอดบุญ หย่อนภาษี” ร่วมกับนักลงทุนที่ซื้อกองทุน RMF และ LTF ของบริษัท ระหว่าง 1 พ.ย. — 31 ธ.ค. 48 ซึ่งปรากฏว่าโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดียิ่ง จนทำให้ มียอดขาย RMF + LTF ในช่วงระยะเวลาจัดแคมเปญสูงถึงกว่า 2,865 ล้านบาท”
“โครงการ หยอดบุญ หย่อนภาษี ของบลจ.กสิกรไทย เป็นโครงการทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งบริษัทจะนำรายได้ 50% จากค่าธรรมเนียมจัดการกองทุนที่ได้จากการจำหน่ายหน่วยลงทุนในกองทุน RMF และ LTF ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2548 เข้าสมทบทุนบำรุงสภากาชาดไทย ซึ่งปรากฏว่าบริษัทมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ได้รับจากการจำหน่ายกองทุน RMF และ LTF ในช่วงเวลาดังกล่าว จำนวน 1,545,419.09 บาท และได้บริจาคเงินเพื่อบำรุงสภากาชาดไทยตามโครงการดังกล่าวจำนวนรวมทั้งสิ้น 774,400 บาท บริษัทขอขอบพระคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการนี้จนประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง” นางดัยนากล่าว
ขณะนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้บริหารจัดการกองทุน RMF และ LTF เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่สนใจทั้งสิ้นจำนวน 8 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเป็นจำนวน 5 กองทุน คือ 1) กองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นทุนบริพัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ 2.) กองทุนเปิดรวงข้าวทุนวิภาคเพื่อการเลี้ยงชีพ 3.) กองทุนเปิดรวงข้าวตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ 4.) กองทุนเปิดรวงข้าวพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ 5.) กองทุนเปิดรวงข้าวบริหารเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ และ มีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว 3 กองทุน คือ 1.) กองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นระยะยาว 2.) กองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นระยะยาวปันผล และ 3.) กองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นระยะยาว 70:30ปันผล ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้ลงทุนที่สนใจการลงทุนในระยะยาว พร้อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
บลจ.กสิกรไทย ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทในกลุ่ม KGroup ของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 บริษัทฯ มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 217,007.13 ล้านบาท (ข้อมูล บลจ.กสิกรไทย)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
คุณนฤพร ชีวนันทพรชัย / คุณลลิลทิพย์ อมรสินทวี
โทร (02)631-2290 -5 ต่อ 310/309 แฟกซ์ (02)234-6192-3 /
E-Mail: narueporn@neotarget.com / Lalintip@neotarget.com
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--