เอส เอ พี ประกาศยอดรายรับปี 2547 เติบโต 20% ในเอเซียแปซิฟิก

ข่าวทั่วไป Friday February 4, 2005 14:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--พิตอน คอมมิวนิเคชั่น
เอส เอ พี ประกาศยอดรายรับปี 2547 เติบโต 20% ในเอเซียแปซิฟิก ชูโปรแกรม Safe Passageรองรับธุรกิจในทุกกลุ่ม และขนาดอุตสาหกรรมรองรับ 28 อุตสาหกรรม ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก
บริษัท เอส เอ พี (เอเซียแปซิฟิก) จำกัด ออกแถลงผลประกอบการของเอส เอ พีทั่วทั้งเอเซียแปซิฟิกของปี 2547 ชี้ว่า เอส เอ พีมียอดรายรับรวมถึงกว่า 480 ล้านยูโร เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาถึงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ โดยมาจากรายได้จากซอฟท์แวร์กว่า 28 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 175 ล้านยูโรในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และในไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 นั้น เอส เอ พี (เอเซียแปซิฟิก) มีผลประกอบการถึง 146 ล้านยูโร คิดเป็นอัตราการเติบโตที่26 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับผลประกอบการในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ส่วนผลประกอบการของเอส เอ พีทั่วโลกนั้น มีผลรวมเป็นที่น่าพึงพอใจ คิดเป็น 7.5 พันล้านยูโร โดยมารายได้จากซอฟท์แวร์กว่า 2.4 พันล้านยูโร เป็นผลจากการเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่ใช้ SAP NetWeaver? and the mySAP? Business Suite, including mySAP CRM และ mySAP ERP
นอกจากนี้ ในปี 2547 เอส เอ พีมีลูกค้าที่ติดตั้งระบบของเอส เอ พี ในเอเซียแปซิฟิกเพิ่มมากขึ้นกว่า 1, 000 ราย และทีมงานของเอส เอ พีขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,140 คน โดยเอส เอ พีสามารถขยายธุรกิจสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อีกกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 67 เปอร์เซ็นต์
มร. ฮันส์ ปีเตอร์ เคลย์ ประธาน บริษัท เอส เอ พี จำกัด ประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกกล่าวถึงความสำเร็จของเอส เอ พีในปี 2547 ว่า “เราสามารถแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจจากพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกที่มีให้กับเอส เอ พีนั้นมั่นคงเสมอมา เพราะโซลูชั่นของเอส เอ พี นั้นสามารถประยุกต์ และปรับให้ตรงกับความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ” และ “ปัจจุบันองค์กรต่างเล็งเห็นความสำคัญของการลงทุนงานสารสนเทศว่าเป็นตัวจักรสำคัญที่จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจได้ ดังนั้นเอส เอ พีจึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นของตนเองให้เป็นทางเลือกที่พลาดไม่ได้ของพาร์ทเนอร์ในการนำเสนอต่อลูกค้าผู้สนใจ และด้วยความสำเร็จในปี 2547 เอส เอ พีจึงเร่งสร้างการเติบโตของผลกำไร ทั้งในส่วน CRM และในส่วนแบ่งตลาดของทุกแอพพลิเคชั่นเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจแอพพลิเคชั่น แพลตฟอร์มสำหรับองค์กรธุรกิจในปีต่อๆ ไปได้เต็มตัว”
การเติบโตของ SAP NetWeaver
SAP NetWeaver ของเอส เอ พีนั้นช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ และกระบวนการทำงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยรักษาโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ ไว้ตามนโยบายหลักได้
การเติบโตทางธุรกิจของเอส เอ พีในปี 2547 นั้น เป็นผลจากความสำเร็จในการทำตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่อมในหลายๆ ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย จีน เกาหลี และอินเดีย โดยจะเห็นได้จากความพึงพอใจของบรรดาบริษัทฯ ที่ต่างวางใจใช้โซลูชั่น SAP NetWeaver อาทิ Dewan Sabah Kota Kinabalu, Bursa Malaysia และ Asiatic Development Bhd (Malaysia) เป็นต้น
นอกจากนี้ เอส เอ พียังได้เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่เรียกว่า “Safe Passage Program” เป็นโปรแกรมใหม่ที่เอส เอ พีเสนอแก่ลูกค้าของตนที่ปัจจุบันใช้โซลูชั่นจากพีเพิลซอฟท์ และเจดี เอ็ดเวิร์ดส์ (JDE) โดยเอส เอ พีให้ความคล่องตัวแก่ลูกค้าเหล่านั้นหากต้องใช้งานโซลูชั่นจากทั้งออราเคิลและพีเพิลซฟอท์ โดยเอส เอ พีจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกเชิงเทคนิค ตลอดจนดูแลระบบให้แก่ลูกค้าเหล่านั้น จึงสบายใจได้ว่าจะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และเกิดเสถียรภาพแม้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจของทั้งสองบริษัท
โซลูชั่นของเอส เอ พี กับการตอบรับจากตลาด SMB
ในปี 2547 นั้น เอส เอ พีมีลูกค้ากว่า 200 รายในกลุ่มผู้ใช้โซลูชั่น mySAP All-in-One และมากกว่า 400 รายในกลุ่มผู้ใช้ SAP Business One จากจำนวนของลูกค้าที่กล่าวมานั้น คิดเป็นลูกค้ากว่า 1,000 รายที่เป็นกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่อม ดังนั้นเอส เอ พีจึงได้ทำการตั้งกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจในขนาดกลาง และขนาดย่อมในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกขึ้น โดยมีพนักงานกว่า 200 คน รวมถึงการตั้งศูนย์พัฒนาในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย
“เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกนั้นโดยส่วนมากจะเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง การลงทุนทางด้านไอทีนั้นก็คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่าธุรกิจในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีของเอส เอ พีในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชั่นเพื่อการบริหารธุรกิจ ด้วยโซลูชั่น SAP Best Practice” กลุ่มลูกค้าของเอส เอ พีต้องการใช้โซลูชั่นในการบริหารงานที่แตกต่างกัน ซึ่งทางเอส เอ พีเองก็มีโซลูชั่นที่เหมาะกับแต่ละกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมด้วยเช่นกัน จากการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าในการใช้โซลูชั่น SAP Best Practice นั้น โดยมากพอใจ เพราะใช้งานง่ายติดตั้งสะดวก และ ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของต่ำ (TCO) และ ความคุ้มทุนสูง (ROI) ตัวอย่างของบริษัทที่พึงพอใจกับโซลูชั่น SAP Best Practice ได้แก่ Farmers Trading Company, Rakon (Australia), Guangzhou NCM Co. Ltd., Sparkice (China), Chien Luen Industries (China), Coship Electronics (China), Orchid Pharmaceuticals (India), PT AJBS (Indonesia) และ PT Belfoods (Indonesia) เป็นต้น
ทั้งนี้ เอส เอ พี ประเทศไทยได้ทำการติดตั้งโซลูชั่นดังกล่าวให้กับลูกค้า 2 รายใหม่ ได้แก่ อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ ซึ่งเอส เอ พีได้ทำการติดตั้งในส่วนของงานค้าปลีก (Retail) และดาต้าแมท
เกี่ยวกับเอส เอ พี
เอส เอ พี เอจี (NYSE: SAP) เป็นผู้จัดหาซอฟท์แวร์โซลูชั่นทางด้านธุรกิจชั้นนำระดับโลก โซลูชั่นของเอส เอ พีได้ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการขององค์กรทุกขนาด — ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไปจนถึงองค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพร้ซ์ โซลูชั่น mySAP Business Suite - ได้รับการพัฒนาบน SAP NetWeaver ซึ่งเป็นโครงสร้างระบบที่รองรับแอพพลิเคชั่นและการเชื่อมโยงแบบเปิด ช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนทางธุรกิจ เสริมอานุภาพในการปฏิรูปองค์กร และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ช่วยให้องค์กรทั่วโลกสามารถปรับปรุงสัมพันธภาพของลูกค้าตลอดจนพันธมิตรให้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับระบบซัพพลายเชนและการดำเนินธุรกิจทั้งระบบ นอกจากนี้ เอส เอ พียังมีโซลูชั่นที่รองรับความต้องการสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะด้านถึงกว่า 25 ประเภท ตั้งแต่ อุตสาหกรรมการบินไปจนถึงธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีแกนหลักในการดำเนินงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ปัจจุบันเอส เอ พีมีลูกค้ากว่า 21,600 รายกระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ถึง 120 ประเทศทั่วโลกซึ่งได้รับการติดตั้งซอฟท์แวร์ของเอส เอ พีแล้วกว่า 69,700 แห่ง นอกจากนี้เอส เอ พีมีสาขาอยู่ใน 50 ประเทศทั่วโลก และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่ง ทั้งที่แฟรงเฟิร์ท และ NYSE ภายใต้สัญลักษณ์ “SAP”
(สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก )
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
บูรณี จันทรปรรณิก จุฑาทิพย์ จิตรสุจริต
บริษัท พิตอน คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ 02 612 22 11-5 โทรสาร 01 612 22 16
อีเมล์ buranii@piton.biz, jutathip@piton.biz--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ