ซีเกทเป็นผู้ผลิตรายแรกที่จัดส่งไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเองสำหรับใช้งานในองค์กรไปยังตัวแทนจำหน่ายและผู้สร้างระบบทั่วโลก

ข่าวเทคโนโลยี Monday October 5, 2009 12:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--ซีเกท เทคโนโลยี ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ซีเกท ซีเคียว (Seagate? Secure HDDs) นำมาซึ่งความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติของข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในเครื่องแม่ข่ายและระบบจัดเก็บข้อมูล ซีเกท เทคโนโลยี(NASDAQ: STX) แถลงการณ์เกี่ยวกับการวางจำหน่ายออพชั่นสำหรับไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเอง ซีเกท ซีเคียว (Seagate Secure? Self-Encrypting Drive (SED)) ที่มีอยู่ในฮาร์ดไดรฟ์สำหรับองค์กรหลายรุ่น ผลิตภัณฑ์ที่มีออพชั่น ซีเกท ซีเคียว ประกอบด้วย ไดรฟ์แซฟวิโอ 15เค.2 (Savvio? 15K.2) แซฟวิโอ 10เค.3 (Savvio 10K.3) คอนสเตลเลชั่น (Constellation?) และชีต้า 15เค.7 (Cheetah? 15K.7) ผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรเหล่านี้เป็นการเพิ่มความเป็นผู้นำในการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดเป็นรายแรกของ ซีเกทด้วยเทคโนโลยีไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเอง ซีเกท ซีเคียว หรือ “เอสอีดี” ( Seagate Secure? Self-Encrypting Drive หรือ “SED” technology) ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อนำมาซึ่งความปลอดภัยในขณะที่เก็บข้อมูลไว้ในเครื่องแม่ข่ายและระบบจัดเก็บข้อมูล “ไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเอง (Self-Encrypting Drives) เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ง่ายและมีความคุ้มค่าที่สุดที่บริษัทต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ได้” นายอีริค อูเล่ รองประธานของการ์ทเนอร์ (Eric Ouellet, vice president at Gartner) กล่าว “การใช้ไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเองทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถปกป้องข้อมูลที่เก็บไว้ได้อย่างปลอดภัยจากการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับไดรฟ์และระบบต่าง ๆ ที่ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ถูกเลิกใช้ นำไปทิ้ง ส่งไปซ่อม เคลื่อนย้าย หรือถูกขโมย เนื่องจากแผ่นดิสก์มีเดียเหล่านี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท การใช้ไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเอง ช่วยสร้างความมั่นใจว่าข้อมูลได้ถูกปกป้องในขั้นตอนที่สำคัญมากในวงจรชีวิตของระบบเหล่านี้” องค์กรทุกขนาดอาจมีประสบการณ์ราคาแพงเนื่องจากการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นการขว้างตู้กระจกแล้วขโมยไดรฟ์ออกไปหรือการโจรกรรมระบบทั้งหมด ผู้จัดการฝ่ายไอทีอาจต้องประสบกับการสูญเสียรายได้ ส่วนแบ่งตลาดและความมั่นใจของลูกค้า นอกจากนี้ การปฏิบัติตามกฎทางด้านความปลอดภัยของรัฐบาล เช่น การเก็บข้อมูลคนไข้ไว้เป็นความลับ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้จัดการฝ่ายไอทีที่ดำเนินธุรกิจที่มีความอ่อนไหวทางด้านข้อมูล (เช่น ธุรกิจการดูแลสุขภาพ ธุรกิจธนาคารและประกันชีวิต) ด้วยไดรฟ์จำนวน 50,000 ตัวและข้อมูลจำนวนหลายเทราไบต์ที่ออกจากองค์กรต่าง ๆ ในแต่ละวัน และเนื่องจากร้อยละ 90 ของไดรฟ์ทั้งหมดที่ถูกส่งกลับมาเคลมประกันมีข้อมูลที่ผู้อื่นสามารถอ่านได้จัดเก็บไว้ภายใน ดังนั้น การเลิกใช้ไดรฟ์อย่างปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยความร่วมมือกับอินเทล (Intel) และแอสเอสไอ (LSI) ซึ่งกำลังจัดส่งผลิตภัณฑ์สำหรับจัดการข้อมูล (local key management) และเทคโนโลยีที่มีอินเตอร์เฟซแบบเอสเอเอส 6 กิกะบิตต่อวินาที (6Gb/s SAS technology) ซึ่งมีเทคโนโลยีความปลอดภัยบนพี้นฐานของทรัสเต็ด คอมพิวติ้ง กรุ๊ป (TCG-based security technology) ภายในคอนโทรลเลอร์และโซลูชั่นเครื่องแม่ข่ายซึ่งติดตั้งอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผู้แทนจำหน่ายและผู้ติดตั้งระบบที่สามารถสร้างโซลูชั่นที่มีความปลอดภัยซึ่งแข็งแกร่งพอสำหรับความปลอดภัยในระดับชาติ (national security) แต่ง่ายพอสำหรับพนักงานฝ่ายไอทีเพียงคนเดียวในการจัดการ “องค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมต่าง ๆ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการประสบกับการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่และทำให้บริษัทต้องเสียเงินจำนวนมาก” นายเดวิด บราวน์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแม่ข่ายสำหรับเครือข่ายของอินเทล (David Brown, general manager of Channel Server Products at Intel) กล่าว “การใช้เซิร์ฟเวอร์ บอร์ดของอินเทล เช่น อินเทล เซิร์ฟเวอร์ บอร์ด รุ่น เอส5520เอชซี (Intel? Server Board S5520HC) กับอินเทล เหรด คอนโทรลเลอร์รุ่น อาร์เอส2บีแอล080 รุ่นใหม่ (a new Intel? RAID Controller RS2BL080) และไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเองของซีเกท (Seagate’s Self-Encrypting Drives) ทำให้ข้อมูลถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยในตัวดิสก์ไดร์ฟเอง ซึ่งเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดและง่ายดายในการช่วยสร้างความมั่นใจว่าทรัพย์สินทางปัญญายังคงได้รับการปกป้อง” “แอลเอสไอ (LSI) ทำงานอย่างใกล้ชิดกับซีเกทเพื่อนำมาซึ่งการสนับสนุนไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเองในเมกกะเหรดของแอลเอสไอ (LSI MegaRAID) ซึ่งมีคอนโทรลเลอร์การ์ดซีรี่ส์ 9200 (MegaRAID 9200 series controller cards) ที่ทำงานด้วยความเร็ว 6 กิกะบิตต่อวินาที (6Gb/s) ” นายทอม โคเด็ท ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเครือข่ายของแอลเอสไอ (Tom Kodet, manager of Channel Product Marketing, LSI) กล่าว “คอนโทรลเลอร์เมกกะเหรดและบริการเข้ารหัสด้วยตนเอง เซฟสตอร์ของแอลเอสไอ (LSI SafeStore Encryption Services) สำหรับระบบจัดการข้อมูลหลักทำให้การนำฮาร์ดไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเองของซีเกทมาใช้ เป็นไปอย่างง่ายดายและประหยัดค่าใช้จ่ายที่แม้แต่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่าง ๆ ก็สามารถซื้อโซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยในระดับเดียวกับรัฐบาล (a government-grade security solution) ได้ในปัจจุบัน” ความปลอดภัยของข้อมูลที่ถูกเก็บไว้โดยใช้ไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเองของซีเกทนำมาซึ่งประโยชน์ต่าง ๆ สำหรับการปกป้องข้อมูลในระบบขององค์กรเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องมือที่เป็นซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เข้ารหัสอื่น ๆ ดังนี้: ประสิทธิภาพ— กลไกการเข้ารหัสข้อมูล (encryption engine) สอดคล้องกับความเร็วในการทำงานอย่างเต็มที่กับอินเตอร์เฟซของไดรฟ์ ดังนั้น ประสิทธิภาพในการทำงานของไดรฟ์จึงไม่ลดลง และเนื่องจากไดรฟ์แต่ละตัวมีกลไกในการเข้ารหัสข้อมูลของตนเอง จึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการขยายแบนด์วิธ (bandwidth) ออกไปอย่างไม่มีขีดจำกัดเพราะความต้องการทางด้านความปลอดภัยและการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นจากการที่มีไดรฟ์จำนวนมากขึ้นถูกติดตั้งเพิ่ม เข้าไปในระบบ ความสามารถในการทำงานร่วมกันได้ — เทคโนโลยีการเข้ารหัสดิสก์อย่างสมบูรณ์ในระดับไดรฟ์หรือเอฟดีอี (Drive-level full disk encryption (FDE) technology) ได้รับการสนับสนุนจากโปรโตคอลด้านความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาผ่านทางทรัสเต็ด คอมพิวติ้ง กรุ๊ป (Trusted Computing Group หรือ TGC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นบริษัทต่าง ๆ จำนวนกว่า 50 บริษัท รวมทั้งผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์ทุกราย มาตรฐานการจัดการที่สำคัญ ๆ มีขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการกำหนดขีดความสามารถในการทำงานระหว่างระบบ (interoperability) ผ่านทางไออีอีอี 1619.3 (IEEE 1619.3) ผู้พัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลรายใหญ่ทุกรายต่างมีส่วนร่วมในไออีอีอี 1619.3 ความสามารถในการจัดการ — สิ่งที่ชัดเจนสำหรับผู้ใช้และระบบจัดเก็บข้อมูลคือการเข้ารหัสด้วยตนเองจะไม่ก่อให้เกิดคอขวดหรือจุดที่เป็นปัญหาใด ๆ ที่อาจทำให้ระบบทั้งระบบล่มลงเพราะจุดนี้เพียงจุดเดียว ผู้ใช้งานไอทีไม่จำเป็นต้องถอดรหัสเพื่อรักษาระดับความสามารถในการกู้ข้อมูลเพราะรหัสสำหรับการเข้ารหัสข้อมูลถูกเก็บไว้ในตัวไดรฟ์ ซึ่งทำให้ผู้ดูแลด้านการจัดเก็บข้อมูลไม่ต้องกำหนดตารางการทำงานและดำเนินการใดใดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของไดรฟ์ ความปลอดภัย — เทคโนโลยีการเข้ารหัสด้วยตนเองนำมาซึ่งมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยสำหรับการเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ ข้อมูลที่เข้ารหัสแล้ว (cipher text) จะไม่ถูกเปิดเผยและไดรฟ์จะถูกล็อคไว้รวมทั้งไม่สามารถเข้าถึงได้โดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถเข้าไปยังลิ๊งค์เกี่ยวกับซีเกทและโซลูชั่นที่เข้ารหัสด้วยตนเอง SED solutions เกี่ยวกับซีเกท ซีเกทคือผู้นำในด้านฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และโซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูลทั่วโลก ท่านสามารถพบซีเกทได้ทั่วโลกและค้นหาข้อมูลซีเกทเพิ่มเติมที่ http://www.seagate.com 2009 ซีเกท เทคโนโลยี แอลแอลซี สงวนลิขสิทธิ์ ซีเกท ซีเกท เทคโนโลยีและโลโก้ (the Wave logo) ซีเกท ซีเคียว (Seagate Secure) แซฟวิโอ (Savvio) คอนสเตลเลชั่น (Constellation) และชีต้า (Cheetah) เป็นเครื่องหมายการค้า จดทะเบียนของบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี แอลแอลซี ในประเทศสหรัฐอเมริกาและหรือในประเทศอื่น เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่นทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของตามที่กล่าวมาข้างต้น ซีเกทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือสเป็คของผลิตภัณฑ์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ