กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้ 6 ตุลาคม 2552 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาผ่อนคลายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 (e-auction พ.ศ. 2549) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐ
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวว่า เดิมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี e-auction พ.ศ. 2549 กำหนดให้การจัดหาพัสดุของหน่วยงานของรัฐ ที่กิจกรรม โครงการ หรือการก่อสร้างมีมูลค่าตั้งแต่สองล้านบาทขึ้นไปดำเนินการตามระเบียบนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้จัดหาด้วยวิธีการอื่นได้ และในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551 ได้มีมาตรการผ่อนผันมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 สำหรับการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในคราวนี้ เป็นการผ่อนผันต่อเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีที่เคยผ่อนคลายไว้เดิม สาระสำคัญคือ
(1) การจัดหาพัสดุ สำหรับส่วนราชการ ในวงเงิน 2-5 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐ ในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น หรือมีปัญหาอุปสรรค ให้หัวหน้าหน่วยงานใช้ดุลยพินิจไม่ต้องดำเนินการตามระเบียบ e-auction 2549 และสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการพัสดุของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ หรือระเบียบอื่นของหน่วยงานนั้น ๆ ได้ ทั้งนี้ ต้องชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น หรือปัญหาและอุปสรรค ดังกล่าวไว้ในรายงานขอซื้อหรือขอจ้าง ตามที่ระเบียบกำหนด
(2) การแต่งตั้งคณะกรรมการร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference :TOR) และร่างเอกสารประกวดราคาก่อนเริ่มการจัดหาพัสดุตามระเบียบฯ ข้อ 8 (1) เห็นควรผ่อนผันให้การจัดหาพัสดุในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท หรืองานก่อสร้างในโครงการที่มีแบบและข้อกำหนดในการก่อสร้างที่เป็นมาตรฐานไว้แล้ว ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุจะแต่งตั้งคณะกรรมการร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference :TOR) และร่างเอกสารประกวดราคาหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องนำร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference :TOR) และร่างเอกสารประกวดราคาดังกล่าวเผยแพร่ทาง Website ของหน่วยงานและของกรมบัญชีกลางเพื่อให้สาธารณชนเสนอแนะหรือวิจารณ์ จากเดิมที่ต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวเสมอ
(3) การแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคา การคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลาง และการกำหนดวัน เวลา สถานที่เสนอราคา ผ่อนผันให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานในการแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคา การคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลาง และกำหนดวัน เวลา สถานที่เสนอราคา การเดิมที่ต้องให้อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นผู้แต่งตั้งดังกล่าว
(4) การแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคา
(4.1) การจัดหาพัสดุในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้มีคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 7 คน จะมีกรรมการบุคคลภายนอกหรือไม่ก็ได้โดยให้บุคลากรของหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุเป็นกรรมการและเลขานุการ และจะแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการด้วยหรือไม่ก็ได้
(4.2) กรณีการจัดหาในวงเงินเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้มีคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 7 คน และต้องมีกรรมการบุคคลภายนอก อย่างน้อยหนึ่งคน โดยให้เจ้าหน้าที่พัสดุหรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานนั้นเป็นกรรมการและเลขานุการ และจะแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการด้วยหรือไม่ก็ได้
(5) ในการดำเนินการคัดเลือกเบื้องต้นเพื่อหาผู้มีสิทธิเสนอราคาในกรณีที่มีผู้มีสิทธิเสนอราคารายเดียว โดยปกติให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานยกเลิก แต่ถ้าคณะกรรมการประกวดราคาตามโครงการเห็นว่ามีเหตุผลสมควรที่จะดำเนินการต่อไปโดยไม่ต้องยกเลิกการประกวดราคา ก็ให้คณะกรรมการฯ ต่อรองราคากับผู้มีสิทธิเสนอราคารายนั้นแล้วเสนอหัวหน้าหน่วยงานพิจารณา
(6) กรณีการจัดหาพัสดุในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท กรณีไม่มีผู้เข้าเสนอราคา หรือมีผู้มีสิทธิเสนอราคาเพียงรายเดียวเมื่อถึงเวลาเริ่มการเสนอราคา และคณะกรรมการประกวดราคาได้ดำเนินการต่อรองราคากับผู้มีสิทธิเสนอราคารายนั้นแล้วไม่ได้ผล ให้หน่วยงานดำเนินการจัดหาด้วยวิธีการอื่น ตามระเบียบหรือข้อบังคับว่าด้วยการพัสดุของหน่วยงานนั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.)
ทั้งนี้ ให้มาตรการผ่อนผันตามข้อ 1- 6 ดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 จนถึงวันที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม มีผลใช้บังคับ (ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขระเบียบฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ยิ่งขึ้น) ซึ่งคาดว่าระเบียบจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคม 2553
มาตรการดังกล่าวได้เสนอคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองปัญหาการพัสดุและการพิจารณาอุทธรณ์และคำร้องเรียนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ทราบแล้ว
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวว่า “ การผ่อนผันครั้งนี้เป็นการผ่อนปรนการปฏิบัติตามระเบียบเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง คล่องตัว แต่ยังยึดหลักความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ มี 3 เรื่องที่สำคัญคือ 1) ให้อำนาจหัวหน้าหน่วยงานยกเว้นการประมูลระบบ e-auction สำหรับส่วนราชการ กรณีวงเงิน 2 — 5 ล้านบาท และสำหรับรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐอื่น กรณีวงเงินต่ำกว่า 10 ล้านบาท 2) ให้หัวหน้าหน่วยงานสามารถใช้ดุลพินิจสำหรับโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท ไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference :TOR) และสามารถแต่งตั้งกรรมการประกวดราคาโดยไม่ต้องส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลางอนุมัติ และ 3) ในกรณีที่มีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียวก็ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานดำเนินการต่อได้ จากเดิมที่ต้องยกเลิกการประกวดราคา สำหรับการผ่อนคลายกฎระเบียบครั้งนี้ใช้ได้ทั้งการจัดหาพัสดุที่ใช้เงินงบประมาณปี 2553 และเงินกู้ภายใต้โครงการแผนการปฏิบัติงานไทยเข้มแข็ง”
สำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กรมบัญชีกลาง
โทร. 0-2271-0801