กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--คปภ
นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดอุบัติเหตุรถไฟจากจังหวัดตรังเข้ากรุงเทพตกราง ที่ตำบลเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 เป็นเหตุให้มีเสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นั้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ตระหนักถึงความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของผู้ประสบภัยอย่างยิ่ง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประสบภัยและญาติของผู้ประสบภัยทราบว่าหากผู้เสียชีวิตหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีการทำประกันภัยไว้จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ดังนี้
1. การประกันชีวิต ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยกรณีเสียชีวิตตามจำนวนเงินเอาประกันภัย
ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
2. การประกันอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย และค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย
3. การประกันภัยชดเชยรายได้ กรณีบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองเงินชดเชยรายได้รายวันกรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน
ทั้งนี้ การประกันภัยตามข้อ 1-3 นั้นหากได้มีการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพ หรือค่าปลงศพก็จะได้รับการชดเชยเพิ่มเติมเพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดงานศพ
ผู้ประสบภัย หรือทายาท หรือผู้รับประโยชน์ของผู้เสียชีวิตสามารถเรียกร้องผลประโยชน์จากการทำประกันภัยดังกล่าวได้จากบริษัทประกันภัย โดยรวบรวมเอกสารหลักฐานการเรียกร้องค่าเสียหาย ได้แก่ ใบมรณบัตร สำเนาบันทึกประจำวัน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
นางจันทราฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกันภัยสามารถรองรับความเสี่ยงจากภัยต่างๆ อย่างกว้างขวางหากได้มีการทำประกันภัยไว้ เมื่อเกิดอุบัติภัยขึ้นก็จะสามารถช่วยเหลือ บรรเทาภาระความเดือดร้อนทางด้านการเงินได้ในระดับหนึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยิ่ง ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ดูแลให้มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็ว และเป็นธรรมมาโดยตลอด หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-515-3995 หรือสายด่วนประกันภัย 1186
ฝ่ายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย
โทร.02-515-3930