กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
‘ยูพีเอส’ เผยผลประกอบการไตรมาสสองโต 22% จากการเติบโตของปริมาณการขนส่งทั่วโลกปริมาณการจัดส่งพัสดุภัณฑ์รายวันเพิ่มขึ้น 557,000 ชิ้น และรายรับรวมทะยานถึง 15%
ยูพีเอส (UPS) เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง โดยมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 22.2% ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการส่งออกในทุกๆ ภูมิภาคของโลกเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก รวมทั้งปริมาณการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอีก 387,000 ชิ้นต่อวัน
สำหรับไตรมาสที่สองของปีซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.88 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 0.72 เหรียญสหรัฐฯ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่รายได้สุทธิคิดเป็น 986 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 40,426 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับ 818 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 33,538 ล้านบาท) จากช่วงเดียวกันของปี 2547 โดยมีรายรับรวม คิดเป็นมูลค่า 10,190 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 417,790 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14.9% จาก 8,870 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 363,670 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายรับที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานของเมนโล เวิลด์ไวด์ ฟอร์วาร์ดดิ้ง (Menlo Worldwide Forwarding) ที่ยูพีเอสเพิ่งซื้อกิจการมาเมื่อปีที่แล้ว
ปริมาณการจัดส่งพัสดุภัณฑ์รายวันเฉลี่ยทั่วโลกในไตรมาสที่สอง เพิ่มขึ้นอีก 557,000 ชิ้น หรือ 4.1% คิดเป็น 14.1 ล้านชิ้น รายรับเฉลี่ยทั่วโลกต่อพัสดุเพิ่มสูงถึง 4.7%
มร.ไมค์ เอสคิว ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูพีเอส กล่าวว่า “ยูพีเอสเป็นบริษัท ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปริมาณการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้ ในขณะที่ผลประกอบการในส่วนของธุรกิจระหว่างประเทศมีความโดดเด่นในด้านของปริมาณการส่งออกที่พุ่งทะยานถึง 18%”
ผลกำไรจากการประกอบการรวมเพิ่มขึ้น 18.2% เป็น 1,550 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 63,550 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับ 1,310 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 53,710 ล้านบาท) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ความสำเร็จและการเติบโตในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของยูพีเอสในช่วงไตรมาสที่สอง มีดังนี้
รายได้จากการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 22.7% เป็น 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 82,000 ล้านบาท) กำไรจากการประกอบการในเซ็กเม้นท์นี้ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 41.3% คิดเป็นมูลค่า 397 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16,277 ล้านบาท) ในขณะที่ปริมาณการส่งออกเติบโตถึง 18.2% โดยเฉพาะปริมาณการส่งออกในเอเชียเพิ่มถึง 39.5% ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการส่งออกในประเทศจีนโตถึง 99% สำหรับรายได้เฉลี่ยต่อพัสดุเพิ่มขึ้น 9.4%
รายได้จากการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 5.7% เป็น 6,940 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 284,540 ล้านบาท) กำไรจากการประกอบการเพิ่มขึ้น 13.2% เป็น 1,120 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45,920 ล้านบาท) และอัตราผลกำไรจากการประกอบการเพิ่มขึ้นถึง 220 จุด คิดเป็น 16.1% ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อพัสดุโดยรวมภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 2.4%
รายได้จากธุรกิจในส่วนของธุรกิจซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ (UPS Supply Chain Solutions) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 84.9% คิดเป็น 1,250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 51,250 ล้านบาท) อันเนื่อง มาจากการดำเนินงานของเมนโล เวิลด์ไวด์ ฟอร์วาร์ดดิ้ง (Menlo Worldwide Forwarding) สำหรับความสามารถในการทำกำไรจากการประกอบการในเซ็กเม้นท์นี้ลดลง เนื่องมาจากการใช้จ่ายในการเข้าไปควบรวมกิจการของเมนโล เวิลด์ไวด์ ฟอร์วาร์ดดิ้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดหวังผลกำไรจากการดำเนินงานร่วมกันกับเมนโลฯ ประมาณ 50-100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2549 และอย่างน้อยที่สุด 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2550
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายบริการต่างๆ นวัตกรรมทางด้านสินค้าและเทคโนโลยี และการเข้าไปซื้อกิจการอื่นของยูพีเอส ในส่วนของการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ ยูพีเอสเป็นบริษัทขนส่งด่วนรายแรกที่ได้สิทธิบินตรงไปยังเมืองกวางเจา ประเทศจีน รวมทั้งยังได้เปิดเที่ยวบินใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป เพื่อปรับปรุงบริการขนส่งในวันถัดไป นอกจากนี้ ยูพีเอสยังได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าทางอากาศ (Hub) แห่งใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ด้วย และในช่วงก่อนสิ้นสุดไตรมาสนี้ บริษัทฯ ประกาศที่จะให้บริการขนส่งทางอากาศด่วนเฉพาะภายในประเทศจีน
ในส่วนของการปรับปรุงการให้บริการ บริษัทฯ ได้ขยายบริการ “ยูพีเอส ควอนตัม วิว” (UPS Quantum ViewSM) ซึ่งเป็นระบบโซลูชั่นผ่านเว็บ ที่ช่วยแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยอัตโนมัติเกี่ยวกับพัสดุภัณฑ์ทั้งหมดของเขาที่ถูกส่งเข้ามาอยู่ในระบบของยูพีเอส
ยูพีเอส ยังมีความเคลื่อนไหวในด้านของการเข้าไปควบรวมหรือซื้อกิจการต่างๆ ด้วย ในระหว่าง ไตรมาสที่สองนี้ บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อกิจการของบริษัท โอเว่อไนท์ คอร์ป. (Overnite Corp.) เพื่อนำบริการขนส่งแบบ LTL (Less than Truck Load) มาให้บริการลูกค้า การโอนถ่ายกิจการนี้คาดว่าจะ แล้วเสร็จในวันที่ 5 สิงหาคม 2548
สำหรับในไตรมาสที่สามของปี 2548 ยูพีเอสประมาณการว่า กำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ช่วง 0.81 - 0.87 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.70 เหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2547 (ในปี 2547 กำไรต่อหุ้นอ้างอิงจาก GAAP อยู่ที่ระดับ 0.78 เหรียญสหรัฐ)
แถลงข่าวในนาม : ยูพีเอส (ประเทศไทย)
รายละเอียดเพิ่มเติม : กษมา ภุมรี (kasama.bhumaree@ogilvy.com)
อิศวรา ศกุนวัฒน์ (isavara.sakunwadhana@ogilvy.com)
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 0 2205 6625, 0 2205 6610
พงศ์ชยุติ ลดาวัลย์--จบ--