คันกั้นน้ำริมเจ้าพระยาสมบูรณ์ปี 53 เชื่อรองรับน้ำเหนือน้ำหนุนแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่

ข่าวทั่วไป Monday October 12, 2009 15:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม. ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ รุดตรวจน้ำท่วมชุมชนพระราม 6 และชุมชนข้างธนาคารอาคารสงเคราะห์ เขตบางซื่อ หลังน้ำเหนือไหลผ่านพื้นที่กรุงเทพฯ และได้รับผลกระทบน้ำท่วม โดยแจกจ่ายเวชภัณฑ์ ถุงยังชีพช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนระยะยาวจะสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมให้เสร็จทั้งหมด ภายในปี 53 ซึ่งเหลืออีกเพียง 4 กม.เท่านั้น จากทั้งหมดกว่า 70 กม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกทม. และสำนักการระบายน้ำ กทม. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณชุมชนใต้สะพานพระราม 6 เขตบางซื่อ โดยรับฟังบรรยายสรุปการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากน้ำเหนือหลากและน้ำทะเลหนุน ทั้งนี้บริเวณชุมชนพระราม 6 เป็นชุมชนที่อยู่นอกแนวกั้นน้ำของกรุงเทพมหานครเป็นชุมชนที่รุกล้ำแม่น้ำ แต่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานาน กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยประชาชนได้มีการติดตั้งทางเดินไม้ชั่วคราวเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน และแจกจ่ายเวชภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการรักษาโรคที่อาจมากับน้ำ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนหลังคาเรือนที่อาศัยทั้งหมด 18 หลัง และกำลังรื้อย้ายออกเนื่องจากอยู่ในแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ผู้ว่าฯกทม. ได้แจกถุงยังชีพสำหรับราษฎรในชุมชนดังกล่าวด้วย จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังชุมชนข้างธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อเยียมเยียนประชาชนและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมและแจกชุดเวชภัณฑ์ ซึ่งชุมชนนี้ประสบกับปัญหาน้ำท่วมทุกปี เนื่องจากอยู่ต่ำกว่าแนวเขื่อนกั้นน้ำ และเป็นชุมชนแออัดไร้ระเบียบ จึงยากแก่การจัดการระบายน้ำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำต้องประสบกับปัญหาน้ำอยู่อย่างต่อเนื่องไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากอาคารบ้านเรือนสร้างอยู่ในพื้นที่การไหลของน้ำตามธรรมชาติ แต่กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วยการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อย ระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร ทั้งสองฝั่ง ทั้งนี้จากการรายงานของสำนักการระบายน้ำการก่อสร้างเขื่อนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้นใกล้แล้วเสร็จ ยังคงเหลืออยู่เพียงประมาณ 4 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งได้จัดทำรายละเอียดของงบประมาณเพื่อก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะใช้งบประมาณ 378 ล้านบาท อยู่ระหว่างการ e-Auction โดยจะเร่งให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 53

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ