กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--ก.ไอซีที
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานปิด “โครงการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและร่วมติดตามผลการปฏิบัติราชการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปี 2552” ว่า กระทรวงฯ ได้พิจารณาเห็นว่า “โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน” เป็นโครงการที่เหมาะสมในการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและร่วมติดตามผลการปฏิบัติราชการ เนื่องจากมีความสอดคล้องกับภารกิจหลักและยุทธศาสตร์สำคัญของกระทรวงฯ โดยเป็นโครงการฯ ที่นำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่ประชาชน ด้วยการเสริมสร้างภูมิปัญญา และการเรียนรู้การใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงในทุกภาคส่วน จึงนับเป็นโครงการฯ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเหมาะสมที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอประเด็นสำคัญต่างๆ รวมถึงปัญหาและแนวทางแก้ไข ตลอดจนมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ และร่วมกันจัดทำกระบวนการพัฒนา เพื่อให้กระทรวงฯ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเต็มที่
“สำหรับวัตถุประสงค์ที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการดังกล่าว ก็คือ เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนด้วยประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดจนรับฟังความต้องการและตอบสนองด้วยการบริการประชาชนอย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งเพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ประชาชน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและติดตามผลการปฏิบัติราชการ รวมถึงมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มุมมองจากตัวแทนภาคประชาชน และหน่วยงานราชการต่างๆ นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลจากการวิเคราะห์ มาใช้พิจารณาปัจจัยต่างๆ รวมทั้งนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากประชาชน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องมาใช้พัฒนาการดำเนินงานของกระทรวงฯ ตลอดจนนำไปต่อยอดในการพัฒนาคุณภาพการบริการของโครงการอื่นๆ ของกระทรวงฯ เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป” นายสือ กล่าว
ส่วนการดำเนินงานนั้น กระทรวงฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานภาคประชาชนที่ผ่านการคัดเลือกจากหลากหลายกลุ่มและจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของศูนย์ฯ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชนและผู้ดูแลศูนย์ฯ ร่วมแสดงทัศนะในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ทั้งในเรื่องประโยชน์ของศูนย์ฯ ปัญหาจากการดำเนินงานศูนย์ฯ ในพื้นที่ท้องถิ่น รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำมาใช้พัฒนาและวางแนวทางในการปรับปรุงการดำเนินงานของศูนย์ฯ ทั่วประเทศ นอกจากนี้กระทรวงฯ และคณะทำงานภาคประชาชนยังได้ร่วมกันปรึกษาหารือและร่วมมือกันพัฒนานโยบาย/ แนวทางในการจัดตั้งศูนย์ฯ การดำเนินงานของศูนย์ฯ และการประเมินผลศูนย์ฯ ตลอดจนนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้บริหารของกระทรวงฯ ได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการขยายผลสัมฤทธิ์ของการจัดตั้งศูนย์ฯ ที่สามารถเอื้อประโยชน์อย่างเต็มที่ให้กับประชาชนในระยะต่อไป
“ภายหลังจากเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและติดตามผลการปฏิบัติงาน ทำให้กระทรวงฯ ได้แนวทางและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ปีงบประมาณ 2553 ว่า ควรมีการจัดตั้งศูนย์ฯ ให้ได้ประมาณ 800 ศูนย์ โดยจัดให้บริการในทุกอำเภอ เนื่องจากปัจจุบันจำนวนเครื่องที่ให้บริการนั้นยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงควรมีการจัดตั้งให้มากกว่า 1 ศูนย์ ซึ่งในเบื้องต้นควรจัดตั้งให้ครบทุกอำเภอก่อน ทั้งนี้ การเร่งดำเนินงานควรเป็นไป4อย่างมีคุณภาพด้วย นอกจากนี้ยังควรขอความร่วมมือจากคณะกรรมการในเครือข่าย เพื่อร่วมกันติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ รวมทั้งจัดการฝึกอบรมผู้ดูแลศูนย์ฯ ทั้งที่ดำเนินงานมาแล้วและเพิ่งเปิดดำเนินงาน โดยแบ่งฝึกอบรมเป็นแต่ละภาค และในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนปีนี้อาจมุ่งเน้นดำเนินการที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนมากกว่าสถานศึกษาที่เป็นโรงเรียน รวมทั้งควรมีการนำศูนย์ฯ ที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานมาเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติงานให้แก่ศูนย์ฯ อื่นๆ ด้วย” นายสือ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-1416747 ทวิติยา สมัตถะ