กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--กทม.
ผู้บริหารกทม. ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมขังพร้อมกำชับหน่วยปฏิบัติการเร่งระบายน้ำ ถ.บางนา-ตราด ศรีนครินทร์ หลังพบจุดวิกฤตแยกศรีอุดมน้ำขังสูง 30-40 ซม. ประชาชนได้รับความเดือดร้อนการสัญจร และเครื่องยนต์ดับเสียกลางทางจำนวนมาก ทีมเบสท์รุดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสูบน้ำลงคลองสานหลัก พร้อมตั้งแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำทะลักเพิ่ม ขณะเดียวกันผู้ว่าฯ กทม.มอบหมาย รองผู้ว่าฯ สำรวจถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทและหน่วยงานอื่นตรวจสอบสภาพถนนและท่อระบายน้ำให้ได้มาตรฐานแล้ว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถ.บางนา-ตราดและถ.ศรีนครินทร์ จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอดคืนที่ผ่านมาวัดปริมาณน้ำฝนได้ 148 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าที่กรุงเทพมหานครจะระบายน้ำได้ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณแยกศรีอุดม ถ.ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดวิกฤตพบว่าระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 ซม. อีกทั้งยังมีการก่อสร้างทางลอดเชื่อมแยกศรีอุดม ถ.ศรีนครินทร์ และถ.บางนา-ตราด ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จปลายปี 2553 ส่งผลให้การระบายน้ำในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถระบายน้ำได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตามในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านั้น เจ้าหน้าที่จากหน่วยเบสท์ กทม. ได้เร่งสูบน้ำลงสู่คลองตาช้างระบายสู่คลองประเวศบุรีรมย์ และคลองขวางระบายน้ำลงสู่บึงหนองบอน รวมทั้งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุ และนำกระสอบทรายกั้นเป็นกำแพงตามแนวถนนเพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนสายหลัก นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งจากสำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานเขตประจำพื้นที่น้ำท่วมขังเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมทั้งช่วยเหลือ ดูแล และซ่อมแซมเครื่องยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมขังอีกด้วย
ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.พัฒนาการ เป็นถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีท่อระบายน้ำหรือท่อระบายน้ำไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งตนเองได้มอบหมายให้ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประสานงานกับกรมทางหลวงชนบทเพื่อสำรวจถนนในความดูแลของกรมทางหลวงชนบทรวมถึงในความดูแลของหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบสภาพถนนและท่อระบายน้ำ พร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานดำเนินการปรับปรุงผิวถนนและก่อสร้างท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมผิวถนนและบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย ซึ่งหากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ไม่สามารถดำเนินการได้ขอให้มอบอำนาจและพื้นที่ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปรับปรุงเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนต่อไป นอกจากนี้ในการปรับปรุงถนนในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ของกทม. จะต้องให้กทม. เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานการก่อสร้างด้วย
สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาวในพื้นที่ที่กรมทางหลวงชนบทได้มอบให้กรุงเทพมหานครแล้ว เช่น บริเวณแยกพัฒนาการจนถึงแยกศรีอุดมนั้น กทม. มีโครงการปรับปรุงผิวถนนและท่อระบายน้ำ รวมระยะทาง 6.5 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 800 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างขายแบบประมูลงานคาดว่าอีก 2 เดือนจะได้ผู้รับเหมาก่อสร้างและใช้ระยะเวลาดำเนินก่อสร้างรวม 700 วัน