กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai รวม 231 จาก 468 บริษัท ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 2547 แล้ว คิดเป็น Dividend Yield เฉลี่ยร้อยละ 4.09 สูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 1.62 มูลค่ารวมถึง 149,768 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42 ของกำไรสุทธิรวมในงวด 2547 ซึ่งมีมูลค่ารวม 464,317 ล้านบาท กลุ่มทรัพยากรโชว์ฟอร์มจ่ายปันผล มูลค่ารวมสูงสุดถึง 35,619 ลบ. ล้านบาท คิดเป็น Dividend Yield ร้อยละ 3.13
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน 231 บริษัท หรือร้อยละ 49 ของบริษัท จดทะเบียนทั้งหมด 468 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในหมวด REHABCO) ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 47 แล้ว โดยมูลค่ารวมของการจ่ายปันผลสูงถึงเกือบ 1.5 แสนล้านบาท เมื่อคิดเงินปันผลเทียบกับราคาหลักทรัพย์แล้ว จะเห็นว่าอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ระดับร้อยละ 4.09 สูงกว่าปีก่อนร้อยละ 1.62
“หากเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารประเภทเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1 จะเห็นว่าการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างเหมาะสม จะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก” นายกิตติรัตน์กล่าว
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม ที่มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่
1. กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ประกาศจ่ายปันผล 16 บริษัทจาก 39 บริษัท มีมูลค่าเงินปันผลรวม 2,221 ล้านบาท Dividend Yield เฉลี่ยร้อยละ 6.10 โดยหมวดเครื่องใช้ในครัวเรือน มี Dividend Yield สูงสุดร้อยละ 7.59 และหมวดแฟชั่น ร้อยละ 5.65
2. กลุ่มบริการ ประกาศจ่ายปันผล 41 บริษัท จาก 78 บริษัท มีมูลค่าเงินปันผลรวม 21,585 ล้านบาท Dividend Yield เฉลี่ยร้อยละ 5.06 โดยหมวดพาณิชย์ มี Dividend Yield สูงสุดร้อยละ 6.89 รองลงมาคือหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ร้อยละ 5.27 และโรงแรมและบริการท่องเที่ยวร้อยละ 5.22
3. กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม ประกาศจ่ายปันผล 25 บริษัทจาก 48 บริษัท มีมูลค่าเงินปันผลรวม 11,854 ล้านบาท Dividend Yield เฉลี่ยร้อยละ 4.84 โดยหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์มี Dividend Yield สูงสุดร้อยละ 5.30 รองลงมาคือหมวดกระดาษและวัสดุการพิมพ์ร้อยละ 4.95 และหมวดบรรจุภัณฑ์ร้อยละ 4.66
4. กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประกาศจ่ายปันผล 32 บริษัทจาก 71 มีมูลค่าเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 30,554 ล้านบาท Dividend Yield เฉลี่ยร้อยละ 4.58 โดยหมวดวัสดุก่อสร้างมี Dividend Yield สูงสุด ร้อยละ 5.03
“เมื่อพิจารณาจากมูลค่าเงินปันผล พบว่าหุ้นกลุ่มที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผล ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มเทคโนโลยี โดยทั้ง 3 กลุ่มนี้มีมูลค่าเงินปันผลรวม 90,341 ล้านบาท” นายกิตติรัตน์กล่าว
สำหรับ กลุ่มทรัพยากร ประกอบด้วยหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค 15 บริษัท และหมวดเหมืองแร่ 1 บริษัท รวม 16 บริษัท ประกาศจ่ายปันผลจำนวน 14 บริษัท มีมูลค่าเงินปันผลรวม 35,619 ล้านบาท โดย บมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุด จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 6.75 บาท Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 3.18 โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวมถึง 18,881 ล้านบาท
รองลงมาคือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประกอบด้วยหมวดวัสดุก่อสร้าง 30 บริษัท และหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 41 บริษัท ประกาศจ่ายปันผลจำนวน 32 บริษัท มีมูลค่าเงินปันผลรวม 30,554 ล้านบาท ซึ่งมีบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่ม จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 9.50 บาท Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 5.73 โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวม 18,000 ล้านบาท
และอันดับ 3 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี ประกอบด้วยหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ 16 บริษัท หมวดชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ 11 บริษัท และหมวดสื่อสาร 17 บริษัท ประกาศจ่ายปันผลจำนวน 24 บริษัท มี มูลค่าเงินปันผลรวมทั้งกลุ่ม 24,168 ล้านบาท ซึ่งในหมวดนี้ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เป็นบริษัทที่มีผลกำไรสุทธิสูงสุด ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2.60 บาท มีมูลค่าเงินปันผลรวม 13,983 ล้านบาท โดยมี Dividend Yield เท่ากับ 4.44
ทั้งนี้ ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายเงินปันผล และคาดว่าจะทยอยประกาศมาให้ทราบเป็นระยะ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลการลงทุนได้จากเว็บไซต์ ของตลาดหลักทรัพย์ฯที่ www.set.or.th และเว็บไซต์บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัดที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049
วรรณมน เสาวคนเสถียร์ โทร. 0 22292797--จบ--