กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--เอ้าท์ดอร์ พีอาร์
บริษัทฮาวายไทยฯ ต่อยอดความสำเร็จจากหวายสังเคราะห์ เปิดตัวสุดยอดแห่งนวัตกรรมใหม่เส้นใยสังเคราะห์ “ผักตบชวา ดูราวีร่า” (DURAWERA — SYNTHETIC WATER HYACINTH) เป็นรายแรกของโลกที่ผลิตเหมือนธรรมชาติมากสุด ตั้งเป้าเตรียมรุกตลาดในอเมริกาและยุโรป มั่นใจยอดขายเฟอร์ฯรวมปีนี้ 200 ล้านบาท ขณะที่ ผอ.ศูนย์ฯ TCDC ขานรับผลงานคนไทยเจ๋ง พร้อมดันสู่โครงการ Creative Economy เป็นรูปธรรมในอนาคต
นายวิวัฒน์ วิภวพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮาวายไทย ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สานและวัสดุถักทอจากเส้นหวายธรรมชาติ และหวายจากเส้นใยสังเคราะห์ภายใต้ชื่อ ดูราวีร่า “Durawera” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทดำเนินการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ “ดูราวีร่า” มายาวนานกว่า 17 ปี ทำให้เป็นที่ไว้ใจของลูกค้าทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้พยายามคิดค้นพัฒนาเส้นใยสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ลักษณะเป็นเส้นใยผักตบชวาเหมือนจริงมากที่สุด และสามารถนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากทั้งตลาดอเมริกาและยุโรป ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของ ฮาวายไทย ที่พยายามสรรหาสิ่งใหม่ๆ มาผลิตเป็นวัสดุให้แก่วงการนักออกแบบเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่อไป
“บริษัทฮาวายไทยฯ ได้พัฒนาเส้นใยผักตบชวามาตั้งแต่ปี 2005 จนปี 2007 ก็ได้เส้นใยที่เหมือนธรรมชาติมากที่สุด โดยเมื่อกันยายนที่ผ่านมาเราได้นำสินค้าไปร่วมแสดงภายในงาน International Casual Furniture & Acessories Market TM ที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้เข้าร่วมชมงานเป็นอย่างมาก ซึ่งในปีหน้าเรามีแผนงานจะนำผลิตภัณฑ์ไปโชว์ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองโคโลญจ์ ประเทศเยอรมัน เพื่อขยายฐานในตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น”
นายวิวัฒน์ ยังได้อธิบายต่ออีกว่า เหตุที่ต้องพัฒนาเส้นใยใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับวัสดุเพื่อใช้ในวงการอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ของไทย เพราะที่ผ่านมา ผู้ประกอบการใช้วัสดุในการผลิตแบบเดิมๆ ทำให้ไม่ค่อยมีสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ด้วยเหตุผลนี้เองบริษัทฯ จึงวางเป้าหมายไม่ใช่แค่การผลิตเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่ยังคิดค้นหาวัสดุใหม่ๆ ที่จะนำมาสร้างสรรค์งานแปลกใหม่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบศิลปหัตถกรรม โดยเฉพาะคุณสมบัติของเส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า นอกจากจะมีความเหมือนธรรมชาติแล้ว ยังทนต่อทุกสภาวะอากาศทั้งร้อนจัด หนาวจัด ทนต่อลมฝน สีไม่ซีด มีความยืดหยุ่นได้ดี ทำความสะอาดง่าย ฝุ่นไม่เกาะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้บริษัทฯ ได้นำไปทดสอบกับสถาบัน ATLAS WEATHERING SERVICES GROUP ที่สหรัฐอเมริกา สามารถทนความร้อนได้ถึง 50 องศาเซลเซียส คงทนต่อรังสียูวี และสภาวะอากาศที่หนาวจัดได้ไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือเท่ากับ 43,800 ชั่วโมง (โดยเครื่องเร่งเวลา)
“หลังจากที่เราผลิตวัสดุชนิดใหม่นี้ออกมา ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ทำให้ต้องเร่งผลิตสินค้าให้ทันกับความต้องการ ปัจจุบันสามารถผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้เฉลี่ยวันละ 30-40 ตัว ขณะที่งานเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ จะผลิตได้วันละประมาณ 180 ตัว โดยสินค้าทุกตัวจะเป็น Hand Made ทั้งหมด ทำให้ต้องใช้ระยะเวลานาน สินค้ามีความละเอียด และสวยงามมาก สำหรับในปีหน้าบริษัทฯ ยังได้เตรียมแผนเปิดตัวดีไซน์ใหม่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า โดย ดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เคยฝากผลงานให้กับแบรนด์ระดับโลกมาหลายดีไซน์แล้ว อีกทั้งใน ยุโรป มีแบรนด์ระดับโลกมากมายที่ออกตัวว่าได้นำเส้นใยสังเคราะห์ ดูราวีร่า เป็นวัสดุหลักในการผลิตสินค้าออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ “ดูราวีร่า” เพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อตอบรับการใช้งานของลูกค้า ที่ต้องการความโดดเด่นของเส้นหวายดังกล่าว คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีในอนาคตอันใกล้นี้ ”
นอกจากนี้นายวิวัฒน์ ยังได้เปิดเผยถึงผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ โดยคาดการณ์ในปีนี้ว่าน่าจะมียอดขาย 200 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายในประเทศและต่างประเทศ 50: 50 โดยลูกค้ายังเป็นกลุ่มตลาดระดับบน
“ที่ผ่านมาสัดส่วนลูกค้าในประเทศจะน้อยกว่านี้ แต่ระยะหลังลูกค้าคนไทยเชื่อมั่นในสินค้าของเรามากขึ้น ซึ่งในระยะต่อไปเราจะรุกตลาดที่ขายแบบ Big Lot มากขึ้น โดยจะเจาะกลุ่มตลาดคอนโดฯ และหมู่บ้านระดับหรู เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก และสนใจสินค้าที่อิงกับธรรมชาติ โดยเฉพาะเส้นใยผักตบชวาที่กำลังมาแรงและล่าสุดเราก็ได้รับเกียรติจากศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ TCDC กรุงเทพฯ ได้นำเส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า ไปบรรจุไว้ในศูนย์ฯ อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ดีไซเนอร์ทั่วโลกได้รู้จักเส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศมากยิ่งขึ้น” นายวิวัฒน์ กล่าว
ด้าน คุณชมพูนุท วีรกิตติ ผู้อำนวยการห้องสมุดวัสดุเพื่อการออกแบบ (Material ConneXion Bangkok) ของศูนย์ TCDC กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ทางห้องสมุดรู้สึกยินดีที่บริษัท ฮาวายไทยสามารถคิดค้นและผลิตวัสดุใหม่ๆ ขึ้นมา ตลอดจนสามารถต่อยอดทางธุรกิจได้ ซึ่งเส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า (DURAWERA — SYNTHETIC WATER HYACINTH) ถือว่าเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ทำได้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด
ทั้งนี้ คุณชมพูนุท ยังกล่าวอีกว่า เส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า ของบริษัทฮาวายไทย ถือเป็นผลงานที่สร้างสรรค์มาก โดยทางห้องสมุดได้นำไปจัดไว้ในกลุ่มผลงานจากพลาสติก ซึ่งเป็นหมวดที่ใหญ่ที่สุด และเชื่อว่าจะเป็นวัสดุที่ได้รับการต่อยอด เพราะปัจจุบันผู้บริโภคหันมานิยมสินค้าจากธรรมชาติหรือมีลักษณะเป็นธรรมชาติมากขึ้น และก็เชื่อว่าเส้นใยดังกล่าวจะสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และงานฝีมืออื่นๆ อย่างมาก ในอนาคต
“ในฐานะที่เราเป็นองค์กรภาครัฐฯ ยินดีที่จะสนับสนุนผลงานของคนไทย และพร้อมให้ขอมูลต่างๆ ภายในศูนย์ให้กับสมาชิกซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 20,000 คน และการที่เรามีวัสดุพร้อมทั้งข้อมูลใหม่ๆ เข้าจัดแสดงภายในศูนย์ TCDC แห่งนี้ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้โครงการ Creative Economy ของรัฐบาลสำเร็จและเป็นรูปธรรมได้ในอนาคตอีกด้วย”