กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--เจพี วัน คอนซัลแทนท์
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับการเปิดตลาด ณ เมืองสิบสองปันนา (จิงหง) มณฑลยูนาน ที่นำขบวนคาราวานสินค้ากว่า 15 รถคอนเทอร์เนอร์ที่ทำการบรรทุกสินค้าจากประเทศไทยเดินทางไปเปิดตลาดในประเทศจีน บนเส้นทางการค้าเสรีอย่างเป็นทางการกับเส้นทาง R3A ประตูการค้าชายแดนที่เชื่อมต่อการค้าระดับอาเซียนระหว่างไทย ลาว จีน โดยครั้งนี้คาราวานสินค้าไทยที่ไปเปิดตลาดประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งภายในระยะเวลา 5 วันที่จัดงานมีประชาชนชาวจีนที่ให้ความสนใจในสินค้าไทยเข้าร่วมงานกว่า 200,000 คน ยอดเงินสะพัดภายในงานกว่า 250 ล้านบาท
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในการเปิดตลาดการค้าชายแดนครั้งนี้ เมืองสิบสองปันนา (จิงหง) มณฑลยูนาน ประเทศจีนถือว่าเป็นการเปิดตลาดอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่นำสินค้ากว่า 250 รายการไปจำหน่าย ได้แก่ อาหารแห้ง เครื่องประดับ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สินค้าหัตถกรรม และเครื่องสำอาง สปา ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคจากเมืองสิบสองปันนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มองว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ดังนั้นเมื่อมีมหกรรมสินค้าไทยภายใต้งาน Made In Thailand Exhibition 2009 จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือทั้งจากทางภาครัฐบาล และภาคเอกชนจากจีน ในความร่วมมือการจัดมหกรรมสินค้าไทยสู่ตลาดจีนครั้งนี้ ทั้งในส่วนของภาษีนำเข้า พื้นที่ในการจัดแสดง และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ความปลอดภัย ที่พัก โดยการเปิดตลาดครั้งนี้จะเป็นเร่งการเติบโตของโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศ ที่จะเพิ่มยอดมูลค่าทางการค้าในปี 2553 ให้อยู่ที่ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยโครงการดังกล่าวไม่เพียงจะเป็นการเปิดตลาดทางการค้าเท่านั้น ยังเป็นการเปิดเส้นทางคมนาคมทางบกที่จะช่วยในการลดภาระต้นทุนในการขนส่ง และระยะเวลาในการเดินทางอีกด้วย
นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักพัฒนาการตลาดต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวอีกว่า สิบสองปันนาถือเป็นประตูหน้าด้านประตูแรกที่นำสินค้าไปยังมณฑลต่าง ๆในประเทศจีน กอปรด้วยสิบสองปันนายังมีวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย ทั้งด้านภาษาที่คล้ายกับภาคเหนือของไทย วิถีการใช้ชีวิต ดังนั้นการไปเปิดตลาดสินค้าจึงไม่ยากที่เข้าถึงวัฒนธรรมการดำเนินชีวิต การใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมากรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญด้านการค้าในเขตนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งด้านการคมนาคมขนส่งทางบกไปจีนตามแนว North — South Economic Corridor กรมฯ ได้เล็งเห็นถึงเส้นทางการค้าที่สำคัญของประเทศที่ สะดวก ง่าย รวดเร็วต่อการเดินทางขนถ่ายสินค้า ที่ในอนาคตจะเป็นเส้นทางหลักที่ช่วยในการผลักดันการเติบโตด้านส่งออกของประเทศกับประเทศจีน
“การจัดงาน Made In Thailand Exhibition 2009 มหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีน ครั้งนี้ได้มีผู้ประกอบการในการร่วมงานกว่า 250 ราย ที่นำสินค้าไปเปิดตลาด โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ อาหาร ทั้งในส่วนของผลไม้ ข้าว อาหารอบแห้งต่าง ๆ ผ้าไทยทอมือต่าง ๆ ที่เป็นสินค้าสำเร็จ เช่น เสื้อ กางเกง กระเป๋า เครื่องประดับ และสินค้าตกแต่งภายในบ้าน โดยสินค้าเหล่านี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อชาวจีนเป็นอย่างมาก โดยวันแรกที่ทำการเปิดงาน Made In Thailand Exhibition 2009 มหกรรมคาราวานสินค้าไทยสู่ตลาดจีน มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 50,000 คน โดยงานนอกจากจะมีการจำหน่ายสินค้าไทย ยังมีการแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมการแสดงของไทยอีกด้วย อาทิ การแสดงโขน รำไทย มวยไทย ซึ่งตลอดงานทั้งสิ้น 5 วันมีจำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 200,000 คน และมียอดการใช้จ่ายภายในงานทั้งสิ้นกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งการไปเปิดตลาดครั้งนี้กรมส่งเสริมการส่งออกมั่นใจว่าจะเป็นการนำร่องตลาดทางการค้าในต่างประเทศ และจะช่วยในการผลักดันการเติบโตของประเทศได้เป็นอย่างดี” นางดวงกมล กล่าวในที่สุด
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สำนักพัฒนาการตลาดต่างประเทศ
กลุ่มงานกิจกรรม โทร. 02-5120093 ต่อ 463, 512 หรือ
นายจตุพล ศิริเดช
บริษัท เจพี วัน คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร 02-939-3981