กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
นายนิคม บุญพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่าช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งขณะนี้มีพายุโซนร้อนป้าหม่า (Prama) และพายุโซนร้อนอื่นๆ ที่ก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ใกล้กับเกาะลูซอนฝั่งทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์ และเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเข้าสู่ฝั่งประเทศเวียดนาม จากนั้นจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวและเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ต้นไม้หักโค่น อาคารบ้านเรือนพังเสียหาย และเกิดน้ำท่วมขัง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนและน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงมายังพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชน
นายนิคมฯ กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงทุกสถานีเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และความพร้อมด้านวัสดุ-อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ สำหรับใช้ในการบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนสิ่งที่เสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนอง เช่น ป้ายโฆษณาล้ม ต้นไม้ล้ม หรืออาคารบ้านเรือนที่พังเสียหาย ตลอด 24 ชั่วโมง และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนเตรียมการและหลบเลี่ยงอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว เช่น เมื่อเกิดลมพายุหรือฝนฟ้าคะนองให้อยู่ห่างจากสิ่งที่อาจโค่นล้มได้ กรณีที่อยู่ในที่โล่งแจ้งไม่ควรหลบใต้ต้นไม้หรือเพิงพักที่อยู่โดดเดี่ยว ไม่ควรสวมเครื่องประดับหรือถือวัตถุโลหะในที่โล่งแจ้ง เป็นต้น หากประสบเหตุสาธารณภัยต่างๆ ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่โทร. 199