กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--มาร์เก็ตติ้ง อินทิเกรชั่น
“กรมส่งเสริมการส่งออก” เผยผลการจัดงาน BIG & BIH ตุลาคม 2552 วันแรกเข้าเป้า ยอดผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศพุ่งกว่าช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว 13% ขณะที่ผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน 20 % ได้รับการสั่งซื้อสินค้าทันที ด้านนักลงทุนต่างชาติเผยสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก หากจะนำสินค้าเข้าไปบุกตลาดใหม่ ผู้ประกอบการไทยต้องมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของสินค้าเป็นหลัก พร้อมผสมผสานหลากหลายกลยุทธ์เจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย
รายงานข่าวจากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน เดือนตุลาคม 2552 (Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair : BIG & BIH October 2009) ในวันแรกได้รับความสนใจจากผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยคณะผู้แทนการค้าเข้าชมงานสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ฝรั่งเศส และฟิลิปปินส์ ตามลำดับ โดยมีจำนวนผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 2,621 ราย เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 13% และผู้เข้าชมงานที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเพิ่มขึ้นกว่า 13 %
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ได้รับผลสำเร็จจากการเจรจาธุรกิจ โดยมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานประมาณ 20 % ได้รับการสั่งซื้อสินค้าในทันที ขณะที่อีกประมาณ 80% มีแนวโน้มจะได้รับการสั่งซื้อในภายหลัง และผู้ซื้อหลายรายอยู่ระหว่างการตัดสินใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อรายเดิมที่มีการสั่งซื้อสินค้ากันมาโดยตลอด
ด้านนายสตีเว่น เค เลเนียร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท AWS สหรัฐอเมริกา กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง ทิศทางการทำตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ในตลาดตอนกลางของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นในงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (BIG & BIH October 2009) ว่า กระแสนิยมของผู้บริโภคในตลาดตอนกลางของสหรัฐอเมริกา จะเน้นและให้ความสำคัญกับสินค้าที่ใส่ใจในเรื่องคุณค่าทางวัฒนธรรม ประเพณี คุณภาพ ตลอดจนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสินค้าจากประเทศไทยที่จะเข้าไปทำตลาดได้นั้น จะต้องมุ่งเน้นและให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว
สำหรับสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยที่มีโอกาสจะเข้าไปทำตลาดในตอนกลางของสหรัฐฯ ได้อีกมาก ได้แก่ สินค้าของขวัญ ของแต่งบ้าน ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเฉพาะสินค้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติจะได้รับความนิยมสูง นอกจากนี้ยังมีสินค้าเครื่องครัวและเครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้หญิง นิยมสินค้าที่มีดีไซน์สวยงามและใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง วัสดุที่เป็นที่นิยมในขณะนี้คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเซรามิคและไม้ไผ่ ขณะที่สินค้าเคหะสิ่งทอ โดยเฉพาะผ้าไหมไทย ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน
การเข้าไปทำตลาดในตอนกลางของสหรัฐฯ จะต้องใช้กลยุทธ์หลายอย่างร่วมกัน อาทิ การพบปะเจราจาร่วมกัน เพราะจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวได้ การใช้ช่องทางจัดแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้า การสร้างเว็บไซต์ภาษาอังกฤษประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก การยกระดับคุณภาพสินค้าให้ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ เช่นด้าน ISO สิ่งแวดล้อม กลยุทธ์เหล่านี้แม้จะต้องลงทุนสูง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับนับว่าคุ้มค่า และเป็นวิธีการที่จะทำให้ผู้บริโภคสหรัฐฯ หันมาให้ความสนใจกับสินค้าไทยมากขึ้น
ปัจจุบันแม้ว่าการเข้าไปเปิดตลาดในตอนกลางของสหรัฐจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ยังมีบริษัทหลายแห่งที่ต้องการจะเป็นพันธมิตรทางการค้ากับผู้ประกอบการไทย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้ส่งออกไทยต้องพยายามเน้นเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของสินค้าให้มากที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณเมยานี เชิญพิพัฒธนสกุล
บริษัท มาร์เก็ตติ้ง อินทิเกรชั่น จำกัด
โทร 0 2574 6414 โทรสาร 0 2574 6415
อีเมล์ meyanee@mi.co.th, info@mi.co.th