กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยว่า ปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิทะลุ 1.4 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 196,000 ล้านบาท ดีขึ้นกว่าที่เคยคาดไว้ว่าจะจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้า 280,000 ล้านบาท ถึงกว่าแปดหมื่นล้านบาท เหตุเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก และมาตรการรัฐที่เดินหน้าต่อเนื่อง
ตลอดปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิถึง 1,408,256 ล้านบาท ต่ำกว่า ประมาณการ 196,384 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.2 ดีกว่าที่เคยคาดไว้ว่าจะต่ำกว่าประมาณการถึง 279,540 ล้านบาท จำนวน 83,156 ล้านบาท โดยจากข้อมูลการจัดเก็บภาษีที่สำคัญ ที่เป็นดัชนีชี้ภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ ผ่านมา สะท้อนว่าภาวะเศรษฐกิจได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากสินค้านำเข้า อากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และอากรแสตมป์ ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เริ่มมีทิศทางดีขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเชิงลบต่อการจัดเก็บรายได้ในปีนี้ ประการแรก คือ การหดตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลต่อผลประกอบการของธุรกิจ การจ้างงาน และการบริโภคของภาคเอกชน ประการที่สอง คือ มูลค่าการนำเข้าที่ลดลงในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจ ทำให้ VAT จากสินค้านำเข้า และอากรขาเข้าต่ำกว่าเป้าร้อยละ 30.3 และ 20.7 ตามลำดับ ประการสุดท้าย คือ มาตรการด้านการคลังของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระของผู้เสียภาษี เช่น การลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล และแก๊สโซฮอล์ ตาม 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติฯ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่คำนวณแบบพันละห้า สำหรับภาษี ที่ต้องเสียไม่เกิน 5,000 บาท ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีของรัฐบาลลดลง
ภาษีที่จัดเก็บต่ำกว่าเป้าที่สำคัญ ได้แก่ VAT ต่ำกว่าเป้า 110,818 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.4 ภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่าเป้า 66,390 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.5 ภาษีสรรพสามิตต่ำกว่าเป้า 31,418 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.7 ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่ำกว่าเป้า 20,632 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.4 และอากรขาเข้าต่ำกว่าเป้า 20,113 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.7
นายสาธิตฯ สรุปว่า “แม้ว่าผลการจัดเก็บในปีงบประมาณ 2552 จะต่ำกว่าเป้าหมาย แต่จากทิศทางเศรษฐกิจและการจัดเก็บภาษีในครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2552 ที่ปรับตัวดีขึ้นประกอบกับมาตรการต่าง ๆ ของรัฐที่เดินหน้าต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมายอย่างแน่นอน”
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 02 273 9020 ต่อ 3500 , 3545