กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--บิทดีเฟนเดอร์
ผู้นำซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส “บิทดีเฟนเดอร์” รุกเปิดตัว “บิทดีเฟนเดอร์ เวอร์ชั่น 2010” มาพร้อมสุดยอดระบบรักษาความปลอดภัยและนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้นแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง สร้างสีสันวงการซอฟต์แวร์แจกโชค 2 ชั้น ทั้งเงินล้านและมอเตอร์ไซด์ฟีโน่ รวมมูลค่าเกือบ 5 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 180 ล้านบาท พร้อมลั่นครองแชมป์อันดับหนึ่งในตลาด
คุณเจริญศักดิ์ ศักดิ์รัตนอนันต์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิทดีเฟนเดอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันภัยที่เกิดจากการใช้งานก็มีมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะภัยร้ายที่แฝงตัวมาทางอินเตอร์เน็ตในรูปแบบต่างๆ อย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นไวรัสประเภทเวิร์ม (worm) หรือหนอนอินเตอร์เน็ต ,พวกม้าโทรจัน (Trojan Horse) ,แอบดักข้อมูล (Spyware) ตลอดจนโปรแกรมขโมยข้อมูล (Cookie) เป็นต้น และนับวันภัยร้ายจากอินเตอร์เน็ตรูปแบบใหม่ยังมีแนวโน้มเติบโตตามลำดับ
ดังนั้น เพื่อรับมือกับภัยร้ายจากอินเตอร์เน็ต บริษัทจึงรุกเปิดตัวซอฟต์แวร์ “บิทดีเฟนเดอร์ เวอร์ชั่น 2010” โปรแกรมป้องกันภัยไวรัสและป้องกันภัยจากอินเตอร์เน็ต ที่มาพร้อมแนวคิด “Maximum Security and Maximum Speed” สุดยอดของระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมกับนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้นแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง สามารถป้องกันไวรัสที่มากับอีเมล์ คอมพิวเตอร์ และสื่อมัลติมีเดียต่างๆ แอนตี้สแปม ที่ช่วยบล๊อคเว็บไซต์โฆษณาที่ส่งเข้ามา และไฟร์วอล์ โดยในการบล๊อคเว็บไซต์ ที่ไม่เหมาะสมเช่น เว็บโป๊ หรือเกมต่างๆ รวมไปถึงช่วยควบคุมช่องทางการใช้อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
“บิทดีเฟนเดอร์ เวอร์ชั่น 2010 รุ่นนี้ เราได้การรับรองระดับ Advanced+ Certification จาก AV-C และความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม 30 % ใช้ทรัพยากรของเครื่องคอมฯน้อยกว่าเดิม แต่ยังคงประสิทธิภาพในการตรวจจับไวรัสได้ดีอย่างเดิมในระดับแนวหน้า สำหรับมูลค่าตลาดด้านรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอยู่ประมาณ 550 — 700 ล้าน ซึ่งรวมทั้งตลาด ซอฟแวร์และ ฮาร์ดแวร์ ส่วนแบ่งตลาดโปรแกรมป้องกันไวรัส ตกอยู่ที่ประมาณ 250 - 350 ล้านบาท โดยในปีนี้ บริษัทมียอดขายครึ่งปีแรกเท่ากับปีที่แล้ว แต่ล่าสุดยอดขายบริษัทเป็น 2 เท่าของปีที่แล้วไปแล้ว และบริษัทกำลังทำให้เป็น 3 เท่า มีมูลค่ารวมของตลาดซอฟแวร์ป้องกันไวรัส ในช่วง 9 เดือน มีทั้งหมดประมาณ 262 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 60% คิดเป็นรายได้ประมาณ 100 กว่าล้านบาท และในปี 2552 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ทั้งหมด 180 ล้านบาท พร้อมรักษาความนิยมและครองรั้งตำแหน่งผู้นำในตลาดแอนตี้ไวรัส ” คุณเจริญศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ “บิทดีเฟนเดอร์ เวอร์ชั่น 2010” ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้งาน ให้ได้มากที่สุด ทั้งยังเพิ่มฟีเจอร์ที่ทันสมัยดังนี้
- New Interface: ทันสมัยใช้งานง่าย สะดวกในการใช้งานมากขึ้น
- New Usage Profile: เลือกหน้าต่างการใช้งานตามความชำนาญของผู้ใช้
- New Technology (AVC): =Active Virus Control ป้องกัน ทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด
สำหรับจุดเด่นผลิตภัณฑ์ (Key Features)
1.มั่นใจมากขึ้นกับการ Download / share และเปิด file จากเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน และแม้แต่คนแปลกหน้า
- Scan หาไวรัสและ spyware ในทุก web, e-mail และ instant messaging traffic ตามเวลาจริง (real-time)
- ปกป้อง PC ของท่านจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้ heuristic ที่ก้าวล้ำกว่าใคร
2.ปกป้องข้อมูลส่วนตัวและสถานะบุคคลของท่านในรูปแบบต่างๆ อาทิ
— การซื้อสินค้า การธนาคาร การฟัง การชมได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
- Block ความพยายามใดๆ ที่จะขโมยข้อมูลส่วนตัวของท่าน (phishing)
- ปกป้องข้อมูลส่วนตัวมิให้รั่วไหลผ่านทาง e-mail web หรือการใช้ instant messaging
3.เฝ้าระวังไฟล์และบทสนทนาของท่านด้วยการใส่รหัสระดับสูงและการ backup
- การใส่รหัสให้กับ Instant Messaging File Vault จะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวหรือไฟล์ที่มีความอ่อนไหวได้อย่างปลอดภัย มีการ back up file และ folder ไว้ในคอมพิวเตอร์เฉพาะที่
4.เชื่อมต่อเข้า network ใดๆ ภายที่บ้านและที่ทำงานหรือแม้แต่ขณะเดินทางไปที่อื่นได้อย่างปลอดภัย
- มีการเปลี่ยนค่าการปกป้องด้วย firewall โดยอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะกับสถานที่
- มีการเฝ้าระวังเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi เพื่อช่วยป้องกันจากการเข้าถึงเครือข่าย Wi-Fi ของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต
คุณเจริญศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Bitdefender 2010 ไปใช้งาน ยังสามารถร่วมสนุกรับโชค 2 ชั้น ด้วย
อย่างไรก็ตาม แคมเปญแจกเงินล้าน บริษัทจะนับจำนวนของลูกค้าที่ซื้อสินค้า Bitdefender 2010 แล้วลงทะเบียนชิงเงินล้านกับบริษัท เช่น เมื่อลูกค้าคนที่ 1,000 ลงทะเบียน โปรแกรมจะแจ้งเลยทันทีว่า ลูกค้าท่านนั้นได้รางวัล 10,000 บาท โดยบริษัทจะเริ่มจากคนที่ 250 ไปจนถึงคนที่ 100,000 ได้รับรางวัลแตกต่างกันไป รวม 10 รางวัล รางวัลสูงสุดคือรางวัลที่ลูกค้าลงทะเบียนคนที่ 100,000 ได้รับเงินหนึ่งล้านบาทเลยทันที และนอกจากนี้ยังมีรางวัลอื่นๆอีก รวมมูลค่าทั้งหมด เกือบ 5 ล้านบาท