กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
- ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนมากขึ้นและอาจปิดลบได้ หลังเริ่มมีแรงซื้อคืนดอลลาร์จากการคาดการณ์ว่า นักลงทุนสถาบันของญี่ปุ่นจะขายเยน เพื่อไปเพิ่มการเข้าซื้อพันธบัตรต่างชาติที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า + ความอ่อนแอของผลประกอบการภาคธนาคารสหรัฐทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดลดลง ส่งผลลบต่อราคาทองคำ
- กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะสั้นเป็นขาลง, MACD 30 นาทีเคลื่อนอยู่ในแดนบวกทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบทำให้ดูราคาเป็นลบ, Fast Stochastic เคลื่อนตัวลง ทำให้ดูราคาเป็นขาลง, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 38.177 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways-down, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $1,045 - $1,058 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.33 - ฿33.48
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นขาขึ้น, RSI อยู่ที่ระดับ 60.463 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกและได้ตัดเส้น Signal จากด้านล่างทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACDFเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนตัวลงและทำให้ราคามีโอกาสจะปรับตัวลงต่อ ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Bull โดยจะใช้แนวต้านที่ $1,070 และ $1,092 เป็นแนวต้านระยะกลางที่สำคัญตามลำดับ ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $1,020 และ $985 ตามลำดับ
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 4 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 16,600 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 16,730 หรือที่ $1,052.60) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 130 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 16,590 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 140 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFV09 มีส่วนลดมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การขาย (Short) ทองแท่งที่ร้านทองแล้วมาเปิดสถานะซื้อ (Long) GFV09 จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 140-130 = 10 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยอีกราว 15 บาท ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนวันศุกร์
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น +0.7% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น +0.8% ในเดือนส.ค. และอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ย.อยู่ที่ 70.5% ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจาก 69.6% ในเดือนส.ค.
- งบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2552 จนถึง 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ขาดดุลเป็นประวัติการณ์ถึง -1.42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าปีที่แล้วกว่า 3 เท่า สูงที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา หรือคิดเป็น 10% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
- ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. พุ่งขึ้น +$0.95 มาที่ $78.53 ต่อบาร์เรล จากที่ปิด $77.58 ต่อบาร์เรลเมื่อวันก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินในช่วงท้ายตลาด และจากการไต่ขึ้นของราคาน้ำมัน heating oil ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. อ่อนลง -$0.10 มาอยู่ที่ $78.43 ต่อบาร์เรล
ปัจจัยลบ
- ผลประกอบการไตรมาส 3/09 ของสหรัฐ - ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยถึงการขาดทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 จากปัญหาสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ซึ่งกระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับธนาคาร + GE ซึ่งขายสินค้าตั้งแต่เครื่องยนต์ในเครื่องบินไปจนถึงตู้เย็น รายงานรายได้ลดลง 20% ขณะที่กูเกิลรายงานผลกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาด พร้อมระบุว่าทางบริษัทกำลังวางแผนจะซื้อกิจการขนาดใหญ่
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนวันศุกร์
1. รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจความเห็นผู้บริโภคที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นร่วงลงสู่ 69.4 ในเดือนต.ค. จาก 73.5 ในเดือนก.ย. ในขณะที่ผู้บริโภคกังวลอย่างต่อเนื่องว่า ฐานะการเงินส่วนบุคคลที่ย่ำแย่จะไม่ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ปิดแข็งค่าขึ้น -$0.0058 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4885 จากที่ปิด $1.4943 เมื่อวันก่อนหน้า หลังยอดขาดทุนรายไตรมาสที่ระดับสูงของแบงก์ ออฟ อเมริกา และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอในสหรัฐทำให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงสูง ส่วนเช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก -$0.0046 มาที่ $1.4839
- ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -5 สต. มาปิดที่ 33.39 บาท จากที่ปิด 33.44 บาทเมื่อวันก่อนหน้า ตามทิศทางตลาดหุ้นที่ดีดตัวกลับมาได้เช่นกัน แต่ถือว่าภาพรวมเงินบาทยังไม่กลับมาแข็งค่ามากนัก เพราะสกุลเงินต่างประเทศเมื่อวันศุกร์ มีทิศทางอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์ ตามแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +4 สต. มาที่ 33.43 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.33 บาทและ 33.26 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33.48 บาทและ 33.56 บาท
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
1. สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐเดือนต.ค. เวลา 24.00 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ดัชนี NAHB จะอยู่ที่ระดับ 20 ในเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 19 ในเดือนก.ย.
- ผลประกอบการไตรมาส 3/09 ของสหรัฐ — บริษัทแอปเปิล อิงค์ และบริษัทคาเตอร์พิลลาร์ จะประกาศในสัปดาห์นี้
- กองทุนทองคำ — กองทุนทองคำ SPDR ได้รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 16 ต.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,109.31 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.73 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.66 ล้านออนซ์
ปฏิทินการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
Source : Bloomberg
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com