กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ดร.พงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ดร.ธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ และพ.ต.อ.สวัสดิ์ จำปาศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางรัตตินันท์ นิธิโอฬารพงศ์ ผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ 2 เขตบางกอกน้อย เพื่อตรวจสภาพความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองบางกอกน้อยบริเวณพื้นที่ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ 2 ซึ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้นในวันนี้ 1.70 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยบริเวณดังกล่าวยังไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วม แต่อยู่ในแผนดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองบางกอกน้อย โดยมี แนวการก่อสร้างบริเวณสะพานอรุณอมรินทร์ถึงสะพานบางกอกน้อย รวมระยะทาง 1 กิโลเมตรจากแนวป้องกันน้ำท่วมที่ต้องดำเนินการอีกทั้งสิ้น 7 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับ 35 ครัวเรือนที่ปลูกสร้างบ้านเรือนล้ำแนวเขตก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถป้องกันระดับน้ำที่สูงขึ้นในชุมชนดังกล่าวเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามสำนักงานเขตบางกอกน้อยได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่โดยจัดทำสะพานไม้ จัดเก็บขยะมูลฝอย และมอบเวชภัณฑ์ช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว อีกทั้งขณะนี้ระดับน้ำเหนือได้ลดระดับลงทำให้ระดับฐานน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครลดลงตามไปด้วย และหากไม่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง คาดว่าใน 2-3 วัน ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองต่างๆ จะเข้าสู่สภาวะปกติ
และในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.52) ซึ่งเป็นวันที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุด 1.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร จะลงเรือ ณ ท่าเรือกองการท่องเที่ยว เชิงสะพานปิ่นเกล้า ในเวลา 08.00 น. เพื่อพบปะประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงตรวจสภาพความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดด้วย
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า บริเวณชุมชนสันติชนสงเคราะห์ จะมีปัญหาจากระดับน้ำขึ้นและน้ำลง เนื่องจากชุมชนดังกล่าวยังไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้เจรจากับประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านล้ำแนวเขตก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้ทางสำนักเขตเข้ามาดูแลช่วยเหลือในเบื้องต้น ด้วยการสร้างสะพานไม้ทางเดิน การขนย้ายสิ่งของ เครื่องใช้ไฟฟ้าและปลั๊กไฟขึ้นที่สูง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในชุมชนทุกคน