กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา พร้อมปรับตัวสูภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบไปทุกภาคธุรกิจ เน้นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน ตลอดจนการรองรับผู้ป่วยที่จะเข้ามารับการรักษาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาเครื่องมือในการรักษาและคุณภาพบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง
นพ.พิชิต กังวลกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทางโรงพยาบาลได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะเมื่อเทียบรายรับของทางโรงพยาบาลมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันกับปีที่แล้ว ส่วนกลุ่มคนไข้ที่เข้ามารับการรักษาจะได้รับผลกระทบในส่วนของคนไข้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนและคนไข้ในส่วนของชาวตะวันออกกลางที่เดินทางเข้ามาในลักษณะของเมดิคอลทัวร์ จะได้รับผลกระทบกับลูกค้าในส่วนนี้ เพราะเดินทางมาน้อยลง ส่วนคนไข้ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพัทยาและละแวกใกล้เคียงยังคงมีสัดส่วนเข้ามารับการรักษาเท่าเดิม
ในปัจจุบันทางโรงพยาบาลมีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามารับการรักษาอยู่ในสัดส่วนที่ 60 % ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้ารายได้หลักของทางโรงพยาบาล ส่วนอีก 40 % เป็นกลุ่มของลูกค้าที่เดินทางเข้ามาในลักษณะของเมดิคอลทัวร์และกลุ่มคนไข้ในพื้นที่พัทยาเอง และจากผลกระทบทางการเมืองที่ผ่านมาทำให้นักท่องเที่ยวลดลง ทางโรงพยาบาลจึงได้มีการวางแผนที่จะปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆลง รวมทั้งชะลอการลงทุนในแคปปิทอลโปรเจคออกไปก่อน ซึ่งในปีที่แล้วใช้งบลงทุนไปประมาณ 5% ส่วนปีนี้ใช้เพียงแค่ 0.8 % ซึ่งการปรับลดอย่างนี้ ทำให้ทางโรงพยาบาลได้รับผลกระทบน้อยมากจากภาวะในปัจจุบัน เพราะมีการเตรียมแผนการณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว ตลอดจนมีการออกไปทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น
“เราได้มีแผนการทำตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าชาวโอมาน ทางโรงพยาบาลได้ส่งทีมแพทย์ และทีมการตลาดออกไปทำการตลาดที่ประเทศโอมาน โดยได้เข้าร่วมออกบูธในงานเอ็กซิบิชั่นที่ทางโอมานจัดขึ้น พร้อมทั้งให้แพทย์ได้ประจำอยู่ที่บูธเพื่อให้คำแนะนำตอบข้อสงสัยต่างๆ จึงทำให้โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในกลุ่มของคนโอมาน และทำให้มีการเดินทางเข้ามาเพื่อรับการรักษา ทำให้มีรายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นพ.พิชิต กล่าวเสริม
นอกจากความพร้อมในการรองรับคนไข้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาแล้ว ทางโรงพยาบาลยังได้พัฒนาศูนย์ต่างๆภายในโรงพยาบาล โดยศูนย์หัวใจของโรงพยาบาลมีความสามารถทำการผ่าตัดหัวใจ โดยเคสส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ และการนำเครื่อง EP ( Electrophysiology) มาช่วยในการตรวจวินิจฉัยรักษาอาการโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะในคนไข้โรคหัวใจ นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ในการที่จะรองรับของตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ต้องการมีบุตร เดินทางเข้ามารับการรักษา ศูนย์การได้ยิน การทรงตัวและเสียงในหู ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฝีมือระดับชาติมาดูแลศูนย์นี้ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การได้ยินที่พร้อมที่สุดในภาคตะวันออกสำหรับผู้มีปํยหาด้านหู การดำน้ำ การบิน และศูนย์ตา ได้ทำเคสผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา Super Sight Surgery ในการรักษาสายตายาว ตลอดจนได้พัฒนาศูนย์ต่างๆให้มีความพร้อมทั้งเครื่องมือและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมบริการไว้เป็นอย่างดี
คนไข้ที่เดินทางเข้ามารับการรักษาในศูนย์ต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ และศูนย์ความงามจะได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวต่างชาติเดินทางมารักษาสูงถึง 70 % ทีเดียว บางครั้งชาวต่างชาติจะเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามในรูปแบบของเมดิคัลทัวร์ เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกันกับค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ และได้รับบริการที่ดีกว่า และจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน ทางโรงพยาบาล ได้มีการทำ Contract กับ Assistant Company ในหลายประเทศ ที่ประกันสุขภาพให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมา สามารถเข้าใช้บริการของโรงพยาบาลได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยชาวไทยในจังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้ามารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
“ในช่วงไฮซีซันของปีนี้ ถึงแม้ยอดจองชาวต่างชาติลดลง ซึ่งเป็นตัวแปรทำให้คาดหวังได้ยาก จึงได้หวังตลาดคนไทยในพื้นที่และการเข้าไปทำการตลาดในตะวันออกกลาง ตลอดจนแสดงศักยภาพความพร้อมของโรงพยาบาลในการเป็นศูนย์การแพทย์แห่งภาคตะวันออกและทางโรงพยาบาลยังได้รับรองมาตรฐานจากอมริกา JCI (Joint Commission International Accreditation) อีกด้วย ซึ่งทางโรงพยาลได้มีมาตรฐานการให้บริการที่ดี ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารับการรักษา สร้างรายได้เข้าประเทศและมีส่วนแบ่งการตลาดในอันดับต้นๆ เสมือนแสดงจุดยืนให้เมืองพัทยาเป็นเมืองของเมดิคัลทัวร์รึซัม เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้างไปทั่วโลก” นพ.พิชิต กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 038-259-999 ต่อ 3275