กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ธนาคารกรุงเทพ
* คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง
* รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8
* อัตราส่วนเงินกองทุนแข็งแกร่งที่ร้อยละ 16.0 หนุนโอกาสในการเติบโต
ธนาคารกรุงเทพรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน มีกำไรสุทธิ 5,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 จากไตรมาสที่ 2 และร้อยละ 18.8 จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว
แม้ว่าในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา เศรษฐกิจโดยรวมของไทยอยู่ในภาวะถดถอย แต่เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งในภาคการส่งออกที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นและสนับสนุนด้วยการใช้จ่ายภาครัฐ ขณะที่ความเชื่อมั่นทั้งในภาคธุรกิจและผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า "แม้ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินได้อย่างชัดเจนถึงความรวดเร็วและความมั่นคงในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ผลการดำเนินงานของธนาคารที่ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 นี้ เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่เริ่มดีขึ้นของลูกค้า อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงเน้นเรื่องการดูแลคุณภาพสินเชื่อควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพอันแข็งแกร่งทางการเงินต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีความพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และธนาคารยังคงแนวทางเดิมในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถสนับสนุนลูกค้าได้อย่างเหมาะสมทันท่วงที ไปพร้อมกับการแสวงหาลูกค้าใหม่ที่มีคุณภาพ"
"ในไตรมาสนี้ ธนาคารเริ่มมองเห็นสัญญาณความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของสินเชื่อใหม่และลูกค้าเดิมที่ต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากมีการชำระคืนเงินสินเชื่อจากลูกค้าขนาดใหญ่ ทำให้สินเชื่อรวมยังคงลดลง" ณ สิ้นไตรมาส 3 ธนาคารมีสินเชื่อรวม 1,090,587 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นอัตราที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ซึ่งปรับตัวลดลงถึงร้อยละ 6.2
"ธนาคารประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการดำเนินงานตามเป้าหมายหลัก 4 ประการ คือ การรักษาสภาพคล่อง การเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม การดูแลคุณภาพสินเชื่อ และการคงสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง"
ธนาคารมีเงินฝาก ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 จำนวน 1,333,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากสิ้นปี 2551 แต่ลดลงร้อยละ 1.6 จากไตรมาส 2 ของปี และมีอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 81.8 ไตรมาสนี้ ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนใหญ่จากบริการเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและรับประกันการจำหน่ายหุ้นกู้เอกชน บริการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ บริการประกันชีวิตผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) และบริการกองทุนรวม
นโยบายการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมช่วยให้ธนาคารมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 1.8 จากไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 2.6 จากไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ในไตรมาส 3 นี้ ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 773 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี เป็น 56,813 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ร้อยละ 4.7
ธนาคารกรุงเทพยังคงมีเงินกองทุนในระดับที่แข็งแกร่ง โดยเมื่อรวมกำไรของไตรมาส 3 ธนาคารมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 16.0 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 13.1 สถานะการเงินที่เข้มแข็ง ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการสนับสนุนความต้องการด้านการเงินที่มากขึ้นและซับซ้อนยิ่งขึ้นของทั้งลูกค้าปัจจุบัน และรองรับลูกค้าใหม่ในอนาคต
ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 มีจำนวน 188,495 ล้านบาท โดยมีกำไรต่อหุ้น 2.62 บาท และ มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 98.75 บาท
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
พร้อมพร เวชชาชีวะ โทร. 0-2230-2709