แอสเซท พลัส แนะนำลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ASP และ ASP2 เพื่อสร้างโอกาสผู้ลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 20, 2009 14:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--บมจ.แอสเซท พลัส ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาภาวะตลาดตราสารหนี้ในประเทศมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือระยะสั้นปรับลดลงเล็กน้อย จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกองทุนตลาดเงิน หลังจากที่นักลงทุนขายทำกำไรหุ้น และรอจังหวะลงทุนผ่านกองทุนรวมตลาดเงิน ขณะที่ตราสารหนี้ระยะยาวค่อนข้างผันผวนตามการปรับตัวของตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ ปัจจัยกดดันจากปริมาณพันธบัตรรัฐบาลสำหรับปีงบประมาณ 2553 และแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่สร้างความกังวลด้านเงินเฟ้อ โดยในช่วงที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุคงเหลือ 1 ปี เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1.4-1.7% และอัตราผลตอบแทน 10 ปี เคลื่อนไหวเฉลี่ยที่ 3.9-4.3% โดยคาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยน่าจะมีโอกาสปรับสูงขึ้น ขณะที่แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นน่าจะทรงอยู่ในระดับปัจจุบัน “สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะเวลาสั้นๆ เพื่อหาโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก ในระดับความเสี่ยงที่ไม่สูงมากนัก ในช่วงนี้ ขอแนะนำกองทุนภายใต้การจัดการของแอสเซท พลัส 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ (ASP) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันกองทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนระยะสั้นที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงกว่า A- โดยกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเงินฝากประมาณ 65% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ และ 35% ในหุ้นกู้และตราสารหนี้ระยะสั้นของภาคเอกชน ทั้งนี้อายุเฉลี่ยของตราสาร (Duration) ประมาณ 1 เดือน กองทุน ASP เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ชอบความผันผวน แต่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และมีสภาพคล่องในการลงทุนสูง โดยสามารถไถ่ถอนได้ทุกวันทำการ ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนในช่วงต่อไป ผู้จัดการกองทุนจะมีเป้าหมายบริหารพอร์ตการลงทุนให้นิ่ง ไม่ผันผวน เพื่อให้เหมาะกับเงินลงทุนที่มีระยะเวลาการลงทุนที่ไม่แน่นอน สำหรับการพักเงินลงทุนในแต่ละจังหวะเพื่อไม่เสียโอกาสของผลตอบแทน และสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์” ดร.วินกล่าว ดร.วินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนที่ 2 ที่จะขอแนะนำ คือ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ 2 (ASP2) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ ที่สามารถซื้อได้ทุกวันทำการ และขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุก 16 วัน โดยพอร์ตปัจจุบันกองทุนลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนระยะสั้นที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป แต่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดีมาก ทั้งนี้กองทุนจะมี duration ที่ยาวกว่ากองทุน ASP เล็กน้อยเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ปัจจุบันกองทุนมีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 45-50% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน และ อีก 50%ในหุ้นกู้และตราสารหนี้ระยะสั้นของภาคเอกชน โดยอายุเฉลี่ยของตราสาร (Duration) อยู่ที่ประมาณ 3 เดือน “กองทุน ASP2 เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะเวลาประมาณ 3 เดือน และต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนเงินฝากประจำ 3 เดือน จากพอร์ตการลงทุนปัจจุบันที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นกู้เอกชนระยะสั้น โดยสามารถรับความผันผวนของมูลค่า NAV ของกองทุนได้เล็กน้อยในบางช่วงเนื่องจากกองทุนมี Duration ประมาณ 90-120 วัน ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนประมาณ 3 เดือน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่า” ดร.วินกล่าว ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111 สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ