กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ บลจ. เอ็มเอฟซี บลจ. วรรณ และ ธ. อิสลาม เดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และคูเวต เมื่อ 10-16 ต.ค. ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนสถาบันรวม 18 แห่ง มูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 5 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานพัฒนาตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันที่เมืองดูไบ และเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ และเมืองคูเวตซิตี้ ประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 10-16 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพบกับผู้ลงทุนสถาบัน 18 แห่ง มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 5 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบด้วย บริษัทจัดการลงทุน 8 แห่ง ธนาคารอิสลาม 3 แห่ง ธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ 2 แห่ง โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต โอกาสและศักยภาพในการลงทุน รวมทั้งข้อมูลผลิตภัณฑ์ทั้งที่สอดคล้องตามหลักศาสนาอิสลาม และตราสารทางการเงินทั่วไป
“โรดโชว์ในครั้งนี้ได้รับผลเชิงบวกมากกว่าที่คาดไว้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายฐานผู้ลงทุนสถาบันในประเทศแถบตะวันออกกลาง จากการพบปะผู้ลงทุนกลุ่มนี้พบว่า ผู้ลงทุนสถาบันจะมีพฤติกรรมที่ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยประเด็นที่ให้ความสำคัญและสอบถามอย่างมาก ได้แก่ ความโปร่งใส การคุ้มครองผู้ลงทุน และภาษีที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เราได้นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมประเด็นที่ผู้ลงทุนให้ความสนใจ” ดร. สันติกล่าว
ดร. ศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การไปโรดโชว์ครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่ได้พบผู้ลงทุนที่มีศักยภาพ และให้ความสนใจลงทุนทั้งตราสารทุนและตราสารประเภท Fixed income ผู้ลงทุนในประเทศเหล่านี้รู้จักประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นอย่างดี แต่ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับตลาดทุนไทยไม่เพียงพอ ดังนั้น เราต้องนำเสนอข้อมูลให้เขารู้จักทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ กองทุนรวม และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ การทำตลาดในตะวันออกกลางยังเป็นช่วงเริ่มแรก ในช่วงต้นควรทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้มากขึ้นทั้งในเชิงนโยบาย และภาษีที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องอนุสัญญาภาษีซ้อน เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดอื่นๆ ได้
นายสุริพล เข็มจินดา กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กล่าวว่า การเข้าร่วมโรดโชว์ในครั้งนี้ ถือว่าได้ประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากได้พบผู้ลงทุนสถาบันหลายรายที่มีศักยภาพ โดย บลจ. วรรณได้นำเสนอกองทุนอีทีเอฟ ทั้ง TDEX และ TFTSE นอกเหนือจากการการลงทุนผ่านกองทุนรวมทั่วไป เหตุผลที่นำเสนอกองทุนอีทีเอฟ เนื่องจากเป็นตราสารที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนเข้าถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ง่าย สามารถกระจายความเสี่ยงครอบคลุมหลักทรัพย์ที่รวมคำนวณในดัชนีได้โดยไม่ต้องเลือกลงทุนเป็น
รายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสามารถที่จะเลือกลงทุนตามดัชนีที่ใช้อ้างอิงได้
ด้านนายสุวรรณ ดำเนินทอง ที่ปรึกษาธนาคาร ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (I-Bank) กล่าวว่า ผู้ลงทุนสถาบันและธนาคารต่างให้ความสนใจในพันธบัตรอิสลาม (Sukuk) โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธบัตรอิสลามที่ออกในนามของรัฐบาลไทย (Sovereign Sukuk) นอกจากนั้น ผู้ลงทุนยังให้ความสนใจกับ Islamic Finance ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้โอกาสต่อยอดทำธุรกิจอื่นๆ ร่วมกันระหว่างไทยและตะวันออกกลาง คาดว่าธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยจะออก Sukuk ได้ในช่วงต้นปี 2553 และจะนำเสนอกับผู้ลงทุนในตะวันออกกลางอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ คณะยังได้มีโอกาสพบองค์กรกำกับดูแลธุรกิจการเงินในกาตาร์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และ เอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศคูเวต ซึ่งทางสถานทูตได้ช่วยประสานงานนัดหมายกับกองทุนความมั่นคงแห่งชาติ และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คณะ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการดำเนินการต่อ
สำหรับการจัดโรดโชว์ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการเข้าพบผู้ลงทุนสถาบันกลุ่มนี้ จาก ธนาคารซิตี้แบงก์ (ในประเทศไทย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การ์ตา และคูเวต) ธนาคารเอชเอสบีซี (ในประเทศไทยและคูเวต) และ Yasaar Limited (ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ในการแนะนำผู้ลงทุนสถาบันและอำนวยความสะดวกให้แก่คณะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222 สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229 — 2048 วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797