ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กำไรสุทธิ 2,176 ล้านบาทในไตรมาส 3/2552 เพิ่มขึ้น 114% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 20, 2009 17:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2552 ที่ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยธนาคารและบริษัทในเครือมีกำไรจากการดำเนินงาน (ก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษี) รวม 5,309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% และ 15% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2551 และไตรมาส 2/2552 ตามลำดับ และเมื่อหักสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 2,537 ล้านบาท และหักภาษีเงินได้จำนวน 596 ล้านบาทแล้ว ธนาคารมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 2,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักที่ทำให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2552 ที่ดีขึ้นถึง 114% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 135% โดยค่าธรรมเนียมจากบริการเพิ่มขึ้น 15% และในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 2% ถึงแม้ว่ายอดสินเชื่อรวมจะทรงตัวอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ในขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพียง 7% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับปรุงดีขึ้นมาก จากระดับ 61% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52% สำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 ธนาคารมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 4,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 55% รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 2% ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพียง 7% นายตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารพอใจกับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ธนาคารสามารถรายงานผลประกอบการที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หรือเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ความพยายามของเราที่จะสร้างผลตอบแทนจากโอกาสการเติบโตจากภายนอก ด้วยการเข้าซื้อกิจการได้ช่วยเสริมให้เราสามารถรายงานผลประกอบการที่เป็นไปตามเป้าหมายปี 2552 ที่วางไว้” “สำหรับแผนการรวมธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของบริษัท จีอี มันนี่ ประเทศไทยเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 4/2552 นั้น จะช่วยเสริมฐานะการเป็นผู้นำในธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยของธนาคารให้เด่นชัดยิ่งขึ้น และจะทำให้ธนาคารมีฐานที่แข็งแกร่งรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในปีต่อๆ ไป” นายตัน คอง คูน กล่าวในที่สุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 750,601 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อ 557,553 ล้านบาทและเงินฝาก 513,344 ล้านบาท ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 15.6% เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) 12.7% ข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 750,601 ล้านบาท เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรแก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านเครือข่ายสาขา 573 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอี มันนี่ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำเพื่อรายย่อยชั้นนำของโลกได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจและความเชื่อมั่นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับการผสานความสามารถทางธุรกิจของสององค์กร เพื่อให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย โดยปัจจุบัน จีอี มันนี่ และกลุ่มรัตนรักษ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 33 และร้อยละ 25 ตามลำดับ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร www.krungsri.com ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ดร. เยาวลักษณ์ พูลทอง ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ โทรศัพท์ 02 296 2443, 02 296 3729 โทรสาร 02 683 1473 อีเมล์ pyawalak@krungsri.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ