กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานจังหวัดในภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ รับมือภาวะฝนตกหนักในช่วงวันที่ 21-23 ตุลาคม 2552 โดยแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม พร้อมกำชับจังหวัดในพื้นที่ตอนบนของประเทศ เร่งจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยหนาว เพื่อให้การวางแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ช่วงวันที่ 21-25 ตุลาคม 2552 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนกลางและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และที่ลุ่มต่ำ ประกอบกับช่วงวันที่ 21-23 ตุลาคม 2552 ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและอุณหภูมิลดลง จากนั้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2552 ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงอีก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานให้จังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ปริมาณน้ำจากกรมชลประทาน และระดับการขึ้น-ลงของน้ำจากกรมอุทกศาสตร์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
หากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ นอกจากนี้ ปภ.ยังได้ประสานให้จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวโดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง สำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยหนาว เพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
นายอนุชา กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก ให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดหากสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ ส่วนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ประสบภัยหนาว
ให้ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากอุบัติภัยต่างๆที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว เช่น อัคคีภัย ไฟป่า อุบัติเหตุทางถนน เป็นต้น สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และภัยหนาว สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM