กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
“กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม” ผนึกกำลังบริษัทออกแบบชื่อดังจากประเทศอิตาลี “Massimo Zucchi Design” หรือ MZD Bangkok ร่วมสนองนโยบาย Creative Economy ของภาครัฐ ส่งโปรเจ็กต์ “ทริปเปิ้ลไอ” (III) นำร่องยกระดับนักออกแบบรุ่นใหม่ร่วมกับผู้ประกอบการระดับมืออาชีพสร้างโมเดลนวัตกรรมทางปัญญา แมทริกซ์โมเดล (Matrix Model) ที่ดึงจุดเด่น 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ส่งจุดแข็งให้อุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ “แบรนด์ระดับโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อก้าวสู่เวทีตลาดโลก…”
นายปราโมทย์ วิทยาสุข อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ธุรกิจขนาดกลางและย่อม หรือเอสเอ็มอี (SMEs) ของไทยได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตลาดและแหล่งเงินทุน แต่ที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาเรื่องการออกแบบและงานดีไซน์ ล่าสุดทางกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้จับมือกับบริษัทชื่อดังจากประเทศอิตาลี Massimo Zucchi Design หรือ MZD Bangkok ซึ่งเป็นตัวแทนประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ได้จัดทำ โครงการบูรณาการอุตสาหกรรม (Industry Integration by Innovation) หรือ “ทริปเปิ้ลไอ” (III) ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่และผู้ประกอบการมืออาชีพร่วมกันพัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบสู่เชิงพาณิชย์เพื่อนำไปต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์ไทยให้เทียบชั้นกับสินค้าระดับโลก
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เป็นการนำเอากระบวนการออกแบบสู่เชิงพาณิชย์ หรือ Design-to-Commercialization Process (D-2-C) ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางปัญญาซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ MZD Bangkok ที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศมาใช้ เพื่อจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าไทย และถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สอดรับกับนโยบายภาครัฐฯ ที่กำหนดให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะช่วยพัฒนาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจบนพื้นฐานการสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy อีกด้วย
“โครงการนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของอุตสาหกรรมไทย และมุ่งพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้แข็งแกร่งขึ้น และสร้างนักออกแบบมืออาชีพให้มีทัศนะคติและความเข้าใจถึงความต้องการและรสนิยมสินค้าในตลาดโลก พร้อมกับเป็นการส่งเสริมและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนนโยบาย Creative Economy ให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น”
ด้านนายวีรพล ศรีเลิศ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อธิบายถึงรายละเอียดของโครงการฯว่า โครงการทริปเปิ้ลไอ ได้นำแนวคิด “แมทริกซ์โมเดล” (Matrix Model) ภายใต้ลิขสิทธิ์เฉพาะของ MZD Bangkok มาใช้ ซึ่งในเบื้องต้นโครงการ
ดังกล่าวจะเข้าไปสนับสนุนใน 3 อุตสาหกรรมหลักก่อน คือเครื่องประดับ (Jewelry) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ (Accessory) และอุตสาหกรรมเครื่องตกแต่ง (Ornament) สำหรับลักษณะการดำเนินงาน จะมุ่งไปปรับเปลี่ยนวัสดุและภูมิปัญญาไทย ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบขึ้นมาและนำไปต่อยอดความคิด สร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย และนำไปสู่การผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงกลุ่มเป้าหมายได้ในอนาคต
“อย่างไรก็ตาม โครงการ III ยังได้รับเกียรติจาก 2 หน่วยงานรัฐบาล คือ กรมส่งเสริมการส่งออก และกรมทรัพย์สินทางปัญญา จาก 3 หน่วยงานเอกชน คือ สมาคมผู้ค้าอัญมณี และเครื่องประดับไทย สมาคมเครื่องเรือนไทย และสมาคมตกแต่งบ้าน จากองค์กรมหาชนคือ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และจาก 6 มหาวิทยาลัยคือ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นคณะกรรมการทำงานร่วมขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวอีกด้วย”
ขณะที่ นายชยุตม์ อัศรัสกร กรรมการผู้จัดการ MZD Bangkok เปิดเผยว่า “รู้สึกดีใจที่บริษัทฯ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยบริษัทฯ ใช้เวลาในการทำงานประมาณ 5 เดือน แบ่งกระบวนการในการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 Design Workshop ซึ่งเป็นกระบวนการการระดมสมอง และคัดสรรความคิดที่เหมาะสมมาเป็นแนวคิดการออกแบบ ขั้นที่ 2 Design Lab การพัฒนาแนวคิดและทดสอบแนวคิด (Concepts Development & Testing) ซึ่งจะทำให้ได้รายละเอียดของแนวคิดการออกแบบและที่สำคัญคือ ยังมีกระบวนการเชิญกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมาร่วมให้ข้อคิดเห็นต่อแนวคิดของนักออกแบบ ขั้นที่ 3 Prototyping เป็นการสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์จริงโดยได้จากแนวคิด โดยจะต้องวิจัยและวิเคราะห์ถึงปัจจัยความเหมาะสมทางธุรกิจเป็นสำคัญ”
ดร.สุกิตติ เอื้อมหเจริญ ผู้บริหารและ Brand & Marketing Advisor, MZD Bangkok กล่าวย้ำว่า “สำหรับบริษัท MZD ของเรา มีผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบมานานกว่า 30 ปีจากหลายประเทศมาร่วมงานทริปเปิ้ลไอครั้งนี้ โดยแต่ละท่านได้ช่วยวางรากฐานความคิดให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่และผู้ประกอบการหลายหลายแขนงที่ต้องการผสมผสานความคิด มีการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ แบบติดกับกรอบเดิมๆ และนำไปสร้างผลิตภัณฑ์แบบไร้ขีดจำกัด พร้อมสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตไทยได้อย่างโดดเด่น ซึ่งเชื่อว่า โครงการนี้จะช่วยขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมไทยยืนในแนวหน้าของเวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ และสามารถเป็นแกนหลักของการพัฒนา Designer Service Industry เพื่อป้อนทุกธุรกิจในตลาดโลกได้”