กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เดือนพฤศจิกายนมีเทศกาลที่สำคัญสำหรับคนไทย คือ “เทศกาลลอยกระทง” ซึ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2552 เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีไทยกรุงเทพมหานครกำหนดเปิดสวนสาธารณะเพื่อให้ประชาชนพาครอบครัวเข้าไปลอยกระทง 21 แห่ง ได้แก่ สวนลุมพินี สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สวนพระนคร สวนสราญรมย์ สวนรมณีนาถ สวนสันติชัยปราการ สวนธนบุรีรมย์ สวนเสรีไทย (บึงกุ่ม) สวนหนองจอก อุทยานเบญจสิริ สวนน้ำบึงกระเทียม สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา ฝั่งพระนคร สวนสันติภาพ สวนกีฬารามอินทรา สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน สวนทวีวนารมย์ สวนเบญจกิติ สวน 50 พรรษา มหาจักรีสิรินธร สวน 60 พรรษา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และในปีนี้ เพิ่มสวนสาธารณะที่เปิดให้ประชาชนสามารถเข้าไปลอยกระทงอีก 1 แห่ง คือ สวนวนธรรม เขตประเวศ รวมสวนสาธารณะจำนวนทั้งสิ้น 21 แห่ง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครกำหนดระยะเวลาการเปิดสวนฯ ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ตั้งแต่เวลา 15.00—24.00 น. เช่นเดียวกับทุกปี กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนลดใช้กระทงโฟม ใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ เช่น แป้งมันสำปะหลัง ชานอ้อย หรือกระทงที่ทำจากขนมปัง เพื่อลดปริมาณขยะโฟม ซึ่งโฟมเพียง 1 ชิ้น หากปล่อยให้ย่อยสลายในธรรมชาติ ต้องใช้เวลานานนับร้อยปี อีกทั้งในกระบวนการผลิตหรือรีไซเคิลโฟมแต่ละชิ้น ต้องใช้พลังงานมากมายมหาศาล การลดการใช้โฟม จึงเป็นหนทางในการลดขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม และช่วยยับยั้งการเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งหลังจากสิ้นสุดเทศกาลลอยกระทง เพื่อให้แม่น้ำลำคลองสะอาด ปราศจากขยะจากกระทงประเภทต่างๆ กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักสิ่งแวดล้อมจัดทำแผน การจัดเก็บกระทง ด้วยการระดมเจ้าหน้าที่ จำนวน 322 คน จัดเก็บกระทงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา และบริเวณสวนสาธารณะ เริ่มตั้งแต่เวลา 22.00—08.00 น. บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จุดแรก ตั้งแต่คลองบางเขนเก่าถึงสะพานพระปิ่นเกล้าทั้ง 2 ฝั่ง จุดที่ 2 ตั้งแต่สะพานพระปิ่นเกล้า ถึงสะพานสาทรทั้ง 2 ฝั่ง และตั้งแต่สะพานพุทธฯ ถึงสะพานกรุงเทพฯ และจุดสุดท้าย ตั้งแต่สะพานสาทร ถึงสุดเขตกรุงเทพฯ โดยใช้เรือเก็บขนจำนวนทั้งสิ้น 54 ลำ กำหนดจุดเก็บขนถ่ายขยะกระทง 2 แห่ง คือ ท่าอรุณอัมรินทร์ และบริเวณคลังสินค้ากระทรวงพาณิชย์ (ราษฎร์บูรณะ) พร้อมจำแนกประเภทกระทงให้เสร็จ ในเวลา 08.00 น. ของวันรุ่งขึ้น (วันที่ 3 พ.ย. 52) และรายงานผลผ่านเว็บไซต์ www.bangkok.go.th ซึ่งกรุงเทพมหานครหวังว่าในปีนี้ จำนวนกระทงโฟมจะลดลงจากปีที่แล้ว ด้วยความร่วมมือจากประชาชน ทั้งนี้ในปี 2551 กรุงเทพมหานครจัดเก็บกระทงได้ทั้งสิ้น 929,329 ใบ เป็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ 759,918 ใบ คิดเป็นร้อยละ 81.77 กระทงที่ทำจากโฟม 117,997 ใบ คิดเป็นร้อยละ 12.70 และกระทงจากวัสดุอื่น 51,414 ใบ คิดเป็นร้อยละ 5.53
เทศกาลลอยกระทงในปีนี้ กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนให้ประชาชนลอยกระทงจากวัสดุธรรมชาติ แทนการใช้กระทงโฟม อีกทั้งหันมาช่วยกันลดปริมาณกระทงลงสู่แหล่งน้ำ ด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยเปลี่ยนจาก 1 คน 1 กระทง มาเป็น 1 คู่ 1 กระทง 1 ครอบครัว 1 กระทง 1 ก๊วน 1 กระทง นอกจากประหยัดเงินแล้ว ยังเป็นการลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด รักษาคุณภาพน้ำแล้ว ยังเป็นการสร้างความสามัคคีและขอขมาแหล่งน้ำร่วมกันอีกด้วย นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือผู้ค้า ทั้งรายใหญ่และรายย่อย งดจำหน่ายกระทงโฟม หรือวัสดุที่ย่อยสลายยาก เพิ่มการจำหน่ายกระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง ต้นกล้วย ขนมปัง หรือวัสดุอื่นๆ ที่ย่อยสลายได้ อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ควบคู่กับสืบสานประเพณีอันดีงามให้คงอยู่ตลอดไป